เปิดคลิปหลักฐานสำคัญ วินาทีแตงโมตกน้ำ พร้อมสรุปสำนวน

เปิดไทม์ไลน์คลิปนาที แตงโม ตกเรือ 22.34.10 น. เทียบช็อตต่อช็อต เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้เวลา 2 เดือนก่อนจะออกมาแถลงสรุปการทำสำนวนคดีดังกล่าว พร้อมเทียบไทม์ไลน์อย่างละเอียด ผบช.ภ.1 ตอบไม่ได้ ‘ฉี่’ หรือไม่ 

 

 

 

เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 26 เม.ย.ที่ ห้องประชุมอมรวิวัฒน์ อาคารอเนกประสงค์ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ในการแถลงสรุปคดี แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ ซึ่งได้มีการเตรียม พยานบุคคล พยานเอกสาร พยานวัตถุ ของกลาง คลิป DNA และอื่น ๆ ประกอบด้วย พยานบุคคล รวม 124 ปาก ดังนี้ พยานที่ติดต่อผู้ที่อยู่บนเรือ จำนวน 26 ปาก , พยานบุคคลที่เกี่ยวข้องอื่นๆ จำนวน 62 ปาก , พยานผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 16 ปาก , พยานเจ้าหน้าที่ จำนวน 20 ปาก อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ยืนยัน ว่า “แตงโม” ฉี่ท้ายเรือหรือไม่ เพราะไม่มีใครเห็น นอกจาก “แซน” ที่ยืนยันเพียงคนเดียว แต่จากภาพวงจรปิดน่าเชื่อว่ามีบุคคลไปที่ท้ายเรือแล้วตกลงไป ประกอบกับบาดแผลที่ขาก็เข้ากับบาดแผลที่เกิดจากใบพัดท้ายเรือด้วยเช่นกัน

 

คลิปเต็ม! นาที แตงโม ตกเรือ ที่ตร.แถลงสรุปคดี 30 นาที พร้อมไทม์ไลน์ละเอียดยิบ

 

ทั้งนี้ มีการนำภาพจากกล้องวงจรปิด โทรศัพท์มือถือ และจีพีเอสเรือ ข้อความไลน์ มาแสดงเป็นไทม์ไลน์ของเรือ แสดงตำแหน่ง ภาพที่ถ่ายในจุดต่างๆ พร้อม ไลน์การของกระติก ปอ โดยพบว่า

16 ก.พ. 65

  • เวลา 08.00 น. ปอ-ตนุภัทร ได้ทักหา กระติก-อิจศรินทร์ ทางไลน์ในฐานะเพื่อนเก่า
  • เวลา 19.00 น. กระติก-อิจศรินทร์ แชทไลน์หา แตงโม นิดา ว่า ปอ-ตนุภัทร จะชวนไปนั่งเรือจิบไวน์ ซึ่ง แตงโม นิดา ก็ตอบตกลง
  • เวลา 19.56 น. กระติก-อิจศรินทร์ ก็แจ้งกลับไปยัง ปอ-ตนุภัทร ว่าตกลงไปตามนัด โดยแจ้งว่าจะมีแนวร่วมอีก 2 คนไปด้วย แต่เมื่อถึงวันจริงทั้ง 2 ไม่ได้มา จากนั้น ปอ-ตนุภัทร ก็ส่งภาพเรือลำเกิดเหตุมาให้ดู

 

วันที่ 23 ก.พ. 65

  • เวลา 08.00 น. กระติก-อิจศรินทร์ ได้แชทไปหาผู้ใช้ชื่อ แซนดี้ โดยเนื้อหาคือชวนไปขึ้นเรือ และ แซนดี้ ได้ตอบตกลง
  • เวลา 18.00 น. กระติก-อิจศรินทร์ ส่งข้อความหา ปอ-ตนุภัทร ว่า จะมี แซนดี้ ไปด้วย จากนั้น ปอ-ตนุภัทร จึงส่งที่อยู่อู่จอดเรือมาให้พร้อมนัดหมายเวลาเป็นวันที่ 24 ก.พ. 65 เวลา 16.00 น.
  • เวลา 22.00 น. กระติก-อิจศรินทร์ ส่งข้อความหา แตงโม นิดา ว่า ปอ-ตนุภัทร จะพาไปนั่งเรือที่เจ้าพระยา พร้อมพูดคุยเรื่องชุดที่จะใส่

 

วันที่ 24 ก.พ. 65 (วันเกิดเหตุ)

  • เวลา 14.00 น. กระติก-อิจศรินทร์ ส่งข้อความหา แตงโม นิดา ว่าให้เตรียมตัวออกจากบ้านในเวลา 15.30 น.
  • เวลา 14.26 น. กระติก-อิจศรินทร์ ขับรถมารับ แตงโม นิดา ที่บ้าน
  • เวลา 15.04 น. ปอ-ตนุภัทร เดินทางไปถึงอู่จอดเรือ
  • เวลา 15.52 น. แตงโม นิดา และ กระติก-อิจศรินทร์ เดินทางออกจากบ้าน โดยใช้รถของแตงโม ขับไปที่อู่เรือ
  • เวลา 15.55 น. จ๊อบ-นิทัศน์ และ โรเบิร์ต-ไพบูลย์ เดินทางถึงอู่
  • เวลา 16.45 น. กระติก-อิจศรินทร์ และ แตงโม นิดา เดินทางถึงอู่ต่อเรือ
  • เวลา 16.49 น. เรือเดินทางออกจากอู่ โดยที่ไม่มี แซน-วิศาพัช บนเรือ เพื่อไปเติมน้ำมัน
  • เวลา 17.24 น. เรือกลับมารับ แซน-วิศาพัช
  • เวลา 18.24-20.08 น. เรือจอดเทียบท่าร้านอาหารแห่งหนึ่งในจังหวัดปทุมธานี เพื่อรับประทานอาหาร และออกจากร้าน
  • เวลา 21.54 น. เรือขับผ่านกล้องวงจรปิดของท่าเรือเทเวศน์ 1 และมีการตั้งข้อสังเกตุว่าอาจมีการโยนร่างหรือวัตถุอะไรบางอย่างลงจากเรือ
  • เวลา 21.56 น. เรือเดินทางมาถึงสะพานพระราม 8 โดย กระติก-อิจศรินทร์ และ แตงโม นิดา ถ่ายภาพคู่กับสะพานพระราม 8 ซึ่งมีการตั้งข้อสงสัยว่าภาพมีการแก้ไขเวลา แต่จากการสอบสวนพบว่า เวลาตรงกับ GPS ของเรือในเวลาดังกล่าวพอดี ซึ่งลบล้างกับข้อสงสัยช่วง 21.54 น. 
  • เวลา 22.11 น. ขณะเรือกำลังเดินทางกลับอู่ กระติก-อิจศรินทร์  เรียกใช้บริการ U Drink I Drive เพื่อกลับบ้าน แตงโม
  • เวลา 22.32 น. เรือขับผ่านกล้องวงจรปิดที่สามารถปรับความคมชัดจนเห็นว่า ณ ขณะนั้นยังมีคนบนเรืออยู่ 6 คน โดยมีคน 1 คนนั่งอยู่ท้ายเรือ
  • เวลา 22.33.51 น. กล้องวงจรปิดที่หันมายัง ท่าเรือพิบูลย์สงคราม 1 เรือขับผ่านพร้อมมีสิ่งคล้ายวัตถุบางอย่างอยู่ท้ายเรือ
  • เวลา 22.34 น. วัตถุที่อยู่ท้ายเรือก็หายไป-คนที่อยู่หลังเรือยืนขึ้น-เรือชะลอวนกลับมาที่เดิม ซึ่งเรือขับผ่านจุดเดิมตอน 22.33.51 น. แต่ไม่พบวัตถุท้ายเรือ

 

หลังจากนั้น แซนมีการส่งข้อความหาเรือ ตรงกับจุดจีพีเอส ที่พบว่าวัตถุบางอย่างตกลงไป และมีข้อความจำนวนมากออกจากกลุ่มคนบนเรือ จากนั้น เรือได้วนไปมาบริเวณดังกล่าวจำนวนมาก จนมีคลิปที่กำลังเข้าท่าเรือพิบูลสงคราม และเห็นคลิปที่มีการแชร์ว่า มีการทำร้ายร่างกาย แต่เป็นช่วงเวลาที่ล่วงเลยจากสิ่งที่มีวัตถุตกเรือไปแล้ว

 

 

 

การตรวจหลักฐาน


วันที่ 25 กุมภาพันธ์ เจ้าหน้าที่ได้เข้าเก็บหลักฐานจากเรือที่อู่เรือ ตรวจสอบพบหลักฐานหลายรายการ เช่น ดีเอ็นเอ รอยนิ้วมือคนบนเรือ ส่วนบริเวณห้องน้ำเรือพบว่ามีของนำมาเก็บไว้ ส่วนการตรวจหาคราบเลือดนั้นไม่พบ แต่เจอพิรุธคือแก้วบนเรือมีเพียงแก้วเดียว จึงตรวจสอบบริเวณอู่และพบกระติกใส่แก้วอีกหลายใบซึ่งมีดีเอ็นเอของคนบนเรือ ซึ่งวัตถุพยานบางส่วนถูกเคลื่อนย้ายหรือทิ้งลงแม่น้ำจึงมีการดำเนินคดีแล้ว

การชันสูตรพลิกศพ


ศพสวมชุดว่ายน้ำแบบเต็มตัวโดยมีชุดคลุมสีน้ำตาลสวมทับด้านนอก กระดูกอยู่ในสภาพปกติทั้งร่างกาย และไม่พบฟันหัก บริเวณผิวหนังใต้ศีรษะไม่พบรอยช้ำ ตรวจพบแอลกอฮอล์ในร่างกาย 93 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการเน่าของร่างกาย และไม่พบสารเสพติดใด ๆ

            ในหลอดลม พบโคลนทั่วไป สภาพบาดแผลภายนอกพบ  26 บาดแผล แบ่งเป็น 10 กลุ่มคือ

            – บาดแผลบริเวณต้นขาด้านใน ลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อ 3 ส่วนเสียหาย บางส่วนฉีกขาด กล้ามเนื้อส่วนนี้จะใช้ในการงอขา
 
            – บาดแผลฉีกขาดค่อนข้างเรียบ บริเวณข้อพับเข่าขวา เป็นแผลแนวขวาง 3 แผล
 
            – บาดแผลถลอกบริเวณขาขวา 5 แผล
 
            – บาดแผลถลอกบริเวณต้นขาซ้าย
 
            – บาดแผลบริเวณข้อพับเข่าซ้าย 2 แผล
 
            – บาดแผลถลอกเป็นแนวยาวบริเวณข้อพับเข่าซ้ายถึงน่องซ้ายด้านใน 7 แผล
 
            – บาดแผลถลอกเข่าซ้ายด้านนอก
 
            – บาดแผลฟกช้ำบริเวณเข่าซ้ายด้านหน้า
 
            – บาดแผลฟกช้ำบริเวณเข่าซ้าย
 

            – บาดแผลฟกช้ำบริเวณแข้งซ้าย

            – บาดแผลทุกจุดมีการตรวจเก็บเนื้อเยื่อไปตรวจสอบพบเม็ดเลือดแดงในเนื้อเยื่อ จึงยืนยันได้ว่าบาดแผลทั้งหมด 26 แผล เกิดก่อนเสียชีวิตทั้งหมด โดยสาเหตุจากแผลต่าง ๆ ได้รับการวิเคราะห์โดยละเอียด

            – บาดแผลบริเวณต้นขาด้านใน เป็นจุดที่ใหญ่ที่สุด มีขนาดที่เข้ากันได้กับใบพัดเรือ เมื่อเย็บบาดแผลจะได้รอยเว้าโค้ง ซึ่งคล้ายกับที่ทดลองใช้ใบพัดเฉือนกับดินน้ำมัน และมีข้อมูลอ้างอิงจากต่างประเทศกับเคสที่มีคนถูกใบพัดชนิดเดียวกันปั่นขา ก็พบว่ามีลักษณะคล้ายกัน จึงเชื่อว่าเกิดจากการถูกใบพัดเรือปั่นขา

        – บาดแผลจุดที่ 2-22 มีการทดลองนำใบพัดเรือมาเทียบกับบาดแผล พบว่าระยะ ขนาดกับบาดแผล สอดคล้องกับการปั่นของใบพัดเรือทุกประการ ซึ่งเมื่อปั่นขาซ้าย ก็จะสัมพันธ์กับการปั่นขาขวา

 

 

 

 
 
ขอบคุณ ไทยรัฐ/ข่าวสด/springnews