คู่กรณีขึ้นโรงพักไกล่เกลี่ย แต่เครียร์ไม่ลงตัว ชักปืนยิงต่อหน้าตำรวจ

พ่อค้าพริก ยิงสนั่นโรงพัก สน.หลักสอง หลังร้อยเวรนัดเจรจาค่าเสียหายคดีทำร้ายร่างกาย คู่กรณีตาย-ทนายสาหัส ก่อนหลบหนีไปพร้อมกับอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ โดยขับรถกระบะตีตู้ทึบสำหรับส่งของยี่ห้อโตโยต้า รุ่นรีโว่สีขาว ไม่ทราบทะเบียน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าหลบหนีกลับไปบ้านพักที่ย่านถนนพระราม 2

 

 

 

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 16 ธ.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุทะเลาะวิวาทกัน มีผู้ถูกยิงเสียชีวิต ภายใน สน.หลักสอง แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กทม. โดยเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิร่วมกตัญญูได้รีบรุดไปตรวจสอบ

 

ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณชั้น 2 ห้องพนักงานสอบสวนบนโรงพัก พบศพชาย 1 ราย ถูกอาวุธปืนยิงเสียชีวิต นอกจากนี้ยังพบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย ซึ่งเป็นทนายความ เจ้าหน้าที่จึงรีบนำตัวส่ง ร.พ.เกษมราษฎร์ บางแค

 

ยิงสนั่นโรงพัก

 

เบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ พ.ต.ท.กฤษณะ ทองบ้านบ่อ สารวัตร (สอบสวน) สน.หลักสอง ได้เรียก นายคมสัน อินทฤทธิ์ อายุ 33 ปี พร้อม นายอนุสรณ์ วิชาธร อายุ 33 ปี ทนายความ มาไกล่เกลี่ยกับคู่กรณี แต่เกิดมีปัญหา ระหว่างนั้นผู้ก่อเหตุก็ได้ชักอาวุธปืนออกมาแล้วยิงทั้งคู่ต่อหน้าพนักงานสอบสวน ก่อนหลบหนีไป

 

ก่อนก่อเหตุในห้องพนักงานสอบสวน พ.ต.ท.กฤษณะ ทองบ้านบ่อ สว.(สอบสวน) สน.หลักสอง เจ้าของคดีเรียกคู่กรณีทั้งสองฝ่าย มาตกลงกันโดยผู้เสียชีวิตมาพร้อมทนายความ เพื่อเจรจาชดใช้ค่าสินไหมทั้งกรณีทำร้ายร่างกายคู่กรณี ระหว่างนี้ผู้ก่อเหตุเรียกร้องค่าเสียหาย 9 ล้านบาท ต่อหน้าพนักงานสอบสวน ปรากฏว่าฝ่ายผู้เสียชีวิตปฏิเสธยืนกรานว่าไม่สามารถชดใช้เงินจำนวนดังกล่าวให้ได้ ทางพนักงานสอบสวน จึงจะส่งสำนวนคดีฟ้องต่อศาล ทันใดนั้นผู้ก่อเหตุออกไปยืนสงบสติอารมณ์อยู่ด้านนอกห้องสอบสวน ก็เดินเข้ามาหาคู่กรณีและทนายความที่กำลังนั่งอยู่ด้านหน้าโต๊ะพนักงานสอบสวน ก่อนตะโกนถามว่า “แล้วมึงทำกูทำไม” จากนั้นยกมือไหว้ พ.ต.ท.กฤษณะ เจ้าของคดี และพูดว่า “ผมขอโทษครับ” ก่อนจะชักอาวุธปืนขนาด 9 มม.ออกจากกระเป๋าสะพายยิงใส่คู่กรณี 8 นัด ก่อนหลบหนีไป

 

 

 

 

ขอบคุณ ไทยรัฐ/คมชัดลึก