น้องบอส นักเรียน ม.5 เล่านาทีปั๊มหัวใจช่วยชีวิต นักเรียนหญิง หลังโดนไฟช็อตจนหัวใจหยุดเต้น

เปิดใจ น้องบอส นักเรียน ม.5 โรงเรียนอุดมพิชัยรักษ์ เมืองอุดรธานี วินาทียื้อชีวิต นร.หญิง ไฟดูดหัวใจหยุดเต้น ชี้ดีใจ วิชาปั๊มหัวใจเรียนมาจากการเรียน รด. ได้ใช้ช่วยชีวิตคนได้ครั้งแรก

 

 

 

จากกรณี ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย. ที่ผ่านมา เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมในเขตเทศบาลนครอุดรธานี และเกิดเหตุไฟฟ้ารั่วและช็อตนักเรียน 4 คน บริเวณเสาไฟส่องสว่างประตูหลังโรงเรียนสตรีราชินูทิศ ถนนศรีชมชื่น เขตเทศบาลนครอุดรธานี ซึ่งมีนายอรรถชัย อาจอุดม หรือบาส อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้น ปวส.2 แผนกคอมพิวเตอร์ วิทยาลัยเทคนิคอุดรธานี รับจ๊อบเป็นไรเดอร์ส่งสินค้าขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาประสบเหตุ และตัดสินใจเข้าไปช่วยชีวิตนักเรียนชายโดนไฟช็อตหมดสตินอนแช่น้ำ จนตัวเองโดนไฟช็อตด้วย รวม 5 คน ทั้งหมดได้ถูกนำส่งไปโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี และทุกคนปลอดภัย

 

อาจเป็นรูปภาพของ 2 คน, เด็ก และ แหล่งน้ำ

 

ต่อมาเวลา 11.00 น. วันที่ 17 ก.ย. 2565 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบ นายปรัชญา ใจบุญ หรือ น้องบอส อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนอุดรพิชัยรักษ์ อ.เมือง จ.อุดรธานี ซึ่งได้ช่วยปั๊มหัวใจ นักเรียนหญิง ชั้น ม.3 อายุ 15 ปี ซึ่งโดนไฟดูดบริเวณประตูหลังโรงเรียน จุดเดียวกับ นักเรียนชาย ชั้น ม.1 โดนไฟดูด โดยไม่มีใครถ่ายคลิปไว้ แต่มีคนถ่ายภาพนิ่งตอนเข้าไปช่วยและปั๊มหัวใจ

 

นายปรัชญา เล่าว่า ช่วงเย็นหลังเลิกเรียนได้ขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านมาทางหลังโรงเรียนสตรีราชินูทิศ เห็นน้องนอนจมน้ำ มีคนยืนดูอยู่ห่างๆ ไม่มีคนเข้าไปช่วย ตนจึงดับเครื่องรถแล้วเดินเข้าไปช่วยกับพี่อีกคน ครั้งแรกนึกว่าเป็นตะคริว เพราะน้องมือแข็ง พบว่าหัวใจน้องไม่เต้น ตาค้าง เลือดออกปาก จึงปั๊มหัวใจให้น้อง เพราะถ้าหัวใจหยุดเต้นเกิน 4 นาทีก็จะเสียชีวิต จนน้องได้สติ และพูดคำแรกว่าแม่ แล้วน้ำตาก็ไหลออกมา

 

 

สำหรับตอนแรกไม่รู้ว่าไฟช็อต แต่พอมีคนมาบอกว่าน้องโดนไฟช็อต ตนก็กระโดดขึ้นรั้วเลย แต่ถ้ารู้ก่อนว่าไฟช็อต ก็จะช่วยหาไม้มาเขี่ยน้องออกก่อน ซึ่งตนได้เรียนการปั๊มหัวใจช่วยชีวิตที่โรงเรียนและขณะเรียน รด.และเป็นครั้งแรกที่ได้ช่วยชีวิตคน

 

 

ทั้งนี้ รู้สึกตื่นเต้นดีใจที่ช่วยชีวิตคนได้ ถ้าน้ำท่วมอย่าไปใกล้เสาไฟ อย่าเอามือไปจับ เพราะไฟอาจจะรั่ว ขอบคุณทุกคนที่มาให้กำลังใจและชื่นชม ที่ช่วยน้องก็ไม่ได้หวังผลอะไร แค่อยากช่วยให้น้องรอดเท่านั้น ฝากบอกน้องให้หายไวๆ ต่อไปเวลาน้ำท่วมให้ระมัดระวังอย่าไปใกล้เสาไฟ

 

ทางด้าน นางกัลยา ใจบุญ อายุ 46 ปี แม่น้องบอส เผยว่า ตอนแรกไม่ได้คิดว่าน้องจะเป็นฮีโร่ น้องบอสมาเล่าให้ฟังว่าช่วยเด็กจมน้ำ ก็บอกว่าดีแล้วที่ช่วยน้อง ถ้าไม่ได้ไปช่วยน้องจะเป็นอย่างไร และสอบถามอาการน้องว่าเป็นอย่างไร ไม่ได้หวังอะไรเลย สงสารน้องเขา เพราะคิดว่าถ้าเป็นลูกเราจะเป็นอย่างไร แต่เตือนว่าคราวหลังได้บอกลูกระวังให้มากกว่านี้ เวลาเข้าไปช่วยต้องรู้ว่าคืออะไร ก็รู้สึกภูมิใจที่ลูกกล้าเข้าไปช่วยคน น้องจะได้มีชีวิตต่อไป

อย่งไรก็ตาม ขณะกำลังพูดคุยกัน แม่นักเรียนหญิง ชั้น ม.3 ได้โทรศัพท์มาขอบคุณน้องบอส ที่ได้ช่วยชีวิตลูกสาวเอาไว้ จนอาการดีขึ้นและออกจากโรงพยาบาลจะพาน้องมาขอบคุณด้วยตัวเอง.

 

 

 

ขอบคุณ ไทยรัฐ/มติชน