ผัวป่วยจิต ทุบเมียตาย เหตุเพราะโมโหที่เมียตากกางเกงในสูง

สุดสลด ผัววัย 53 ปี ใช้ขวานจาม และไม้กระหน่ำตีเมียจนเสียชีวิต เหตุเพราะโมโหที่เมียตากชุดชั้นในไว้สูง และตายอยู่ใกล้กับที่ตนเองนั่ง จึงเกิดความโมโหและลงมือก่อเหตุ

 

 

 

 

เมื่อวานนี้ 30 พ.ค. 65 พ.ต.ท.ไกรสร ไชยอินทร์ สว.(สอบสวน) สภ.บ้านเสด็จ อ.เมือลำปาง ได้รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายมีผู้เสียชีวิตบริเวณบ้านในไร่สับปะรด เขตบ้านทรายทองพัฒนา หมู่ 10 ต.บ้านเสด็จ อ.เมือง จ.ลำปาง

 

 

ที่เกิดเหตุเป็นทางลูกรังห่างจากถนนสายลำปาง-งาวประมาณ 3 กม. ลักษณะบ้านถูกสร้างด้วยการนำแผ่นไม้เก่ามาประกอบเป็นฝาผนัง ยกพื้นสูง มุงหลังคาด้วยกระเบื้อง ด้านหน้าปลูกเป็นเพิงหมาแหงน

 

245150

 

พบศพผู้เสียชีวิตเป็นหญิง ทราบชื่อ นางจันทร์แก้ว ปวงขัน อายุ 63 ปี ชาวบ้านจำค่า ต.บ้านเสด็จ อ.เมือง จ.ลำปาง สภาพศพนอนหงาย สวมเสื้อผ้าลายดอกสีแดง กางเกงสามส่วนสีดำ มีรอยเปื้อนเลือด ตรวจสอบตามลำตัวบริเวณหน้าผากมีรอยแผลยาว 10 ซม. แขนขวาท่อนบนหัก แขนซ้ายบริเวณข้อพับหัก ตามลำคอมีรอยถูกรัด

 

397030

 

ในขณะเดียวกันผู้ก่อเหตุคือ นายสายันต์ กองคำ อายุ 53 ปี ซึ่งนั่งรอมอบตัวอยู่ที่แคร่ใต้ถุนบ้านที่เกิดเหตุ ไม่ได้หลบหนีไปไหน เจ้าตัวให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ตัวเองมีอาการทางจิต หรือโรคประสาท ต้องทานยาเป็นประจำ ก่อนเกิดเหตุขณะที่ภรรยาหรือผู้ตายกำลังซักผ้าอยู่หลังบ้าน ตัวเองนั่งเล่นอยู่ที่แคร่ใต้ถุนบ้าน จากนั้นภรรยาเอาผ้าที่ซักเสร็จมาตากที่ราวข้างบ้าน ตนสังเกตเห็นว่าภรรยานำชุดชั้นในมาตากใกล้กับแคร่ที่ตัวเองกำลังนั่ง แล้วราวที่ตากอยู่สูงกว่าศีรษะตน บวกกับด้านล่างราวมีกระเป๋าของใช้ส่วนตัวของตนด้วย จึงรู้สึกว่าสิ่งที่ภรรยาทำไม่เหมาะสม ไม่ดี จึงลุกขึ้นไปบอกให้เลื่อนชุดชั้นในออกจากบริเวณนั้น แต่ภรรยาไม่ยอม

 

151350

 

จากนั้น ก็เลยโต้เถียงกัน ภรรยาเดินไปดื่มน้ำในกระติกที่ตั้งอยู่บนแคร่ ด้วยความโมโห ตนก็เลยกระชากแขนภรรยาออกมาที่หน้าแคร่ แล้วใช้ขวานจาม ยาวประมาณ 50 ซม. ฟันไปที่ศีรษะภรรยา และใช้สันขวานตีเข้าที่หน้าผากอีกรอบ จนภรรยาล้มลง จากนั้นตนก็เอาขวานไปเก็บไว้ข้างกองกระเบื้องหลังบ้าน ก่อนจะเข้ามาล็อกคอภรรยาด้วยแขนให้ลุกขึ้น แล้วคว้าท่อนไม้ยาวประมาณ 1 เมตร กระหน่ำตีภรรยาจนล้มลงอีกรอบ พร้อมร้องขอชีวิต และสิ้นใจในเวลาต่อมา

 

908447

 

วันที่ 31 พ.ค. 65 นายเจริญ กองคำ อายุ 74 ปี พ่อของผู้ก่อเหตุ ยอมรับว่าลูกชายป่วยเป็นโรคประสาทมาประมาณ 4-5 ปีแล้ว ต้องรับยาตลอด แต่เมื่อประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา แพทย์เปลี่ยนยาให้ จึงทำให้ลูกชายมีพฤติกรรมแปลก คือตาขวาง ปากหนัก ใครพูดด้วยก็ไม่พูด ซึ่งตนมองว่านี่อาจจะเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ลูกชายลงมือฆ่าภรรยาอย่างโหดเหี้ยม อีกทั้งลูกชายยังมีอาการชักร่วมด้วย

 

titled

 

วินาทีที่ตัวเองพยายามจะเข้าไปช่วยชีวิตลูกสะใภ้ ตอนนั้นตัวเองอยู่ในสวนสับปะรด ห่างออกไปประมาณ 100 เมตร ได้ยินเสียงผู้ตายร้องกรี๊ด ขอความช่วยเหลือ ก็เลยรีบวิ่งเข้ามาดู ภาพที่เห็นคือลูกชายกำลังใช้ท่อนไม้ทุบร่างของผู้ตาย ตนก็เลยเข้าไปห้ามและแย่งไม้ จึงทำให้ถูกลูกหลงไปด้วย เพราะลูกชายฟาดไม้มาโดนที่เบ้าตาซ้ายแ ละแขนซ้ายจนเขียวช้ำ ตนก็เลยยกมือไหว้ขอให้ลูกหยุดทำร้ายตนและผู้ตายเสียที

 

cg

 

เมื่อลูกชายหยุด ตนก็ลากผู้ตายออกจากหน้ากระท่อม เพื่อพาไปนั่งบนตัก แล้วพยายามเข่าเรียกให้ตื่น เขย่าอยู่ประมาณ 1-2 นาทีก็ไม่เป็นผล จึงมั่นใจว่าน่าจะเสียชีวิตแล้ว จึงรีบขับ จยย. ไปแจ้งตำรวจ ในขณะที่ลูกชายก็เดินไปนั่งดูตนกับผู้ตายอยู่ที่แคร่ใต้ถุนบ้าน ส่วนเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นยอมรับว่ายังไม่ได้บอกภรรยาเพราะกลัวว่าจะรับไม่ได้ เนื่องจากปัจจุบันภรรยาก็ป่วยเป็นโรคประสาท และมีอาการหลงลืมด้วย มั่นใจว่าหากภรรยารู้ว่าลูกสะใภ้เสียชีวิต และลูกชายติดคุกคงต้องช็อกแน่นอน

 

355195

 

อย่างวันนี้ภรรยาก็ถามว่าทำไมลูกชายกับลูกสะใภ้ไม่มากินข้าวที่บ้าน และบอกให้ตนไปชวนทั้งคู่กลับมานอนที่บ้าน เพราะกลัวว่าหากนอนในกระท่อมกลางไร่จะได้รับอันตราย ทั้งจากโรคประจำตัว และสัตว์ร้าย ตนก็บ่ายเบี่ยงบอกไปว่าทั้งคู่ทำกับข้าวกินอยู่ที่กระท่อม และหลังจากนี้หากภรรยาถามเรื่อย ๆ ตนก็จะบอกว่าทั้งคู่ไปทำงานอยู่ที่ภาคใต้ ตั้งใจไว้ว่าจะปิดเรื่องนี้ไว้สักประมาณ 5-6 เดือน ถึงวันนั้นแล้วจะหาวิธีบอกความจริง

 

933169

 

 สำหรับร่างของ นางจันทร์แก้ว ซึ่งถูกตั้งบำเพ็ญกุศลศพที่วัดจำค่าวนาราม อ.บ้านเสร็จ จ.ลำปาง บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า โดยเฉพาะลูกชายของผู้ตายอย่าง นายวัชรพล กลัดเนียม อายุ 33 ปี เป็นลูกติดกับสามีเก่า เจ้าตัวซึ่งเพิ่งเดินทางกลับมาจากกรุงเทพฯ ก็ถึงกับเดินปรี่ไปที่โลงศพของแม่ พร้อมกับร้องไห้แทบขาดใจ พลางบอกกับแม่ว่า “ลูกจะพยายามเป็นคนดีตามที่แม่สั่งสอนนะ แม่ไม่ต้องห่วงอะไรแล้วนะ มันได้รับโทษแล้ว มันติดคุกแล้ว ถ้าน้องออกจากคุกมา หนูจะดูแลน้องให้ดีที่สุด”

 

151505

 

นายวัชรพล เปิดใจทั้งน้ำตาว่า เมื่อวานนี้ก่อนเกิดเหตุประมาณ 11.00 น. ตนโทรมาหาแม่และยังถามไถ่สารทุกข์สุขดิบอยู่เลย บอกแม่ว่าเดี๋ยวตอนเย็นจะโทรหา แต่พอมาตอน 16.30 น. มีญาติโทรไปบอกว่าแม่เสียชีวิตแล้ว ตนก็ตกใจ และไม่เชื่อ จึงพยายามโทรศัพท์ไปหาแม่ ปรากฏว่าคนที่รับโทรศัพท์คือเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยืนยันข่าวร้ายกับตนว่าแม่เสียชีวิตแล้ว เพราะโดนแฟนทำร้ายร่างกาย โดยใช้ขวานทุบศีรษะ จนยุบไปหมดเลย ทันทีที่ได้ยินแบบนั้นตนก็ใจสลาย ทำอะไรต่อไหมถูก คิดอย่างเดียวว่าต้องเดินทางกลับมาหาแม่ให้ได้เร็วที่สุด

 

ตนทราบว่าผู้ก่อเหตุต้องกินยารักษาเกี่ยวกับโรคประสาทมาก่อนแล้ว แต่ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ เพราะแม่มักจะเล่าให้ฟังว่าเวลาที่ผู้ก่อเหตุมีอาการกำเริบ ก็คือจะมีอาการชักเกร็ง ทำอะไรไปโดยไม่รู้ตัว แต่แม่ก็ควบคุมสถานการณ์ได้ตลอด พากันไปรักษา ไปรับยาต่อเนื่อง แต่พอมีการเปลี่ยนยาเขาก็เริ่มมีอาการแปลกคือตาขวาง ไม่พูดไม่จา หงุดหงิดง่าย ซึ่งจริงแล้วตนเคยเตือนแม่แล้วว่าพยายามอย่าใช้ชีวิตอยู่ในกระท่อม 2 คนบ่อยเกินไป ให้ออกไปใช้ชีวิตอยู่ในบ้านอีกหลังในพื้นที่ชุมชนบ้าง เพราะหากเกิดอะไรขึ้น ชาวบ้านจะได้ช่วยเหลือทัน และสุดท้ายมันก็เกิดเหตุการณ์ที่ตนไม่อยากให้เกิดขึ้นจนได้ ยอมรับว่าติดใจมาก ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงทำกับแม่ได้ขนาดนี้ ถ้าไม่รักกันทำไมไม่คุยกัน แต่เมื่อทราบว่าผู้ก่อเหตุได้รับโทษทางกฎหมายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็พอใจใจระดับหนึ่ง เพราะอย่างน้อยตนและแม่ก็ได้รับความยุติธรรม

 

 

อย่างหนึ่งที่ตนเคยสัญญาไว้กับแม่ แล้วทุกวันนี้ก็พยามทำให้สัญญานั้นเป็นจริง คือการทำให้ชีวิตแม่สบาย สร้างอนาคตที่ดี เพื่อที่แม่จะได้ไม่ลำบาก ไม่ต้องทำไร่ทำนา แต่แม่ก็ดันมาเสียชีวิตก่อน ทั้งที่ตอนนี้ยังไม่ได้ทำอะไรให้แม่ได้ภาคภูมิใจเลย ฝันที่วาดไว้ก็พังสลาย ไม่มีแรงใจจะสานต่อ ไม่มีใครให้คำปรึกษาเลย

 

 

 

ขอบคุณ อมรินทร์ทีวี/เชียงใหม่นิวส์