ลูกค้าน้อย เศรษฐกิจพัง ครั้งละ 100 อยู่ไม่ได้ ต้องเปลือยกาย เพื่อแลกเงิน

วันที่ 12 พ.ย. พ.ต.อ.สมชาย จิตสงบ ผกก.ตม.จว.ระนอง ได้สั่งการให้ พ.ต.ต.พิศุทธิ์ สุวรรณภาษิต สว.ตม.จว.ระนอง นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนปราบปราม สนธิกำลังกับกำลังตำรวจในพื้นที่ ทำการจับกุม น.ส.วัน อายุ 27 ปี สัญชาติเมียนมา พร้อมพวกรวม 3 คน ในข้อหาเป็นผู้ติดต่อ ชักชวน หรือกระทำการดังกล่าวในที่อื่นใดเพื่อการค้าประเวณี

โดยเจ้าหน้าที่ได้สืบทราบว่ามีพนักงานร้านนวดแห่งหนึ่งเป็นหญิงชาวเมียนมา ได้ชักชวนแขกที่มาใช้บริการร่วมหลับนอน เพื่อแลกกับค่าใช้จ่าย 1,000 บาท เจ้าหน้าที่จึงนำสายลับติดต่อขอซื้อบริการจาก น.ส.วัน ที่บริเวณโรงแรมแห่งหนึ่ง ใน อ.เมือง จ.ระนอง ก่อนแสดงตัวจับกุม จากนั้นจึงทำการตรวจสอบพบธนบัตรไทยที่ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานชนิด 1,000 บาท 1 ใบ ในกระเป๋าสตางค์ และ ถุงยางอนามัย

 

น.ส.วัน หญิงชาวเมียนมา รับสารภาพว่า เธอรับจ้างนวดที่ร้านมาประมาณ 2 ปี แต่ในช่วงสถานการณ์ โควิค-19 ทำให้สภาพเศรฐกิจไม่ดี มีลูกค้ามาใช้บริการน้อยลง  เป็นเหตุให้ได้เงินน้อยลง แต่ภาระค่าใช้จ่ายเท่าเดิม เนื่องจากตนต้องดูแลทางบ้านด้วย จึงเป็นเหตุให้เธอเริ่มชักชวนแขกที่มานวดร่วมหลับนอนกับตน เพื่อแลกกับค่าตอบแทนที่เพิ่มขึ้น 

ด้าน น.ส.คำปุ่น (สงวนนามสกุล) อายุ 52 ปี เจ้าของร้านนวด กล่าวว่า ตนเป็นคนดูแลกิจการร้านนวดดังกล่าวโดยเรียกเก็บค่านวดจากลูกค้าจำนวน 400 บาท แบ่งให้หมอนวด 100 ให้ทางร้าน 300 บาท  น.ส. คำปุ่นยอมรับว่า น.ส.วัน มารับจ้างนวดจริง แต่ตนไม่ทราบว่า น.ส. วัน ไปค้าประเวณีกับลูกค้า เนื่องจากทางร้านไม่ได้มีนโยบายแบบนั้น