“ลูกชาย วัย 40” คว้าท่อนไม้กระหน่ำทุบพ่อหัวเละติดถนน เสียชีวิตสลด

ร.ต.อ.สงวน สัตตราศรี ร้อยเวร สภ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ ได้รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายภายในหมู่บ้านโนนค้อ ม.11 ต.นาทัน อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.อลงกรณ์ เสนีย์รณฤทธิ์ ผกก.สภ.คำม่วง พ.ต.ท.ทองพูล ทองจันทร์ รองผกก.สบสวน สภ.คำม่วง เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยอโสกจุดอำเภอคำม่วง และแพทย์เวรโรงพยาบาลคำม่วงเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

โดยที่เกิดเหตุพบศพนายยงค์ ตาติยะ อายุ 76 ปี อยู่บ้านเลขที่ 133 ม.9 ต.นาทัน อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ นอนเสียชีวิตอยู่ข้างจักรยานสีน้ำเงิน บนถนนกลางหมู่บ้าน สภาพสวมเสื้อแขนสั้นสีกรมท่า นุ่งผ้าโสร่ง ตรวจสอบตามร่างกายบริเวณศีรษะถูกทุบด้วยของแข็งจนเละ มีเลือดนองเต็มพื้น ในมือกำธนบัตรฉบับละ20 บาท 1ใบ ใกล้กันพบท่อนไม้ลำต้นหมาก ขนาดเท่าขา ยาวประมาณ 60 ซม.เปื้อนเลือดตกอยู่

จากการสอบสวนและสอบพยานที่เห็นเหตุการณ์เบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายนายยงค์จนเสียชีวิตคือนายคำกร ตาติยะ อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นลูกชายแท้ๆของนายยงค์ โดยหลังก่อเหตุได้หลบหนีขึ้นไปในป่าเขาภูพานที่อยู่ติดกับหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่จึงจัดกำลังติดตามตัว แต่ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตรวจสอบที่เกิดเหตุนายคำกร ก็ได้เดินทางมาที่บ้าน เจ้าหน้าที่จึงเข้าควบคุมตัวและนำมาสอบปากคำที่โรงพัก โดยพล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ มอบหมายให้ พ.ต.อ.ตรีวิทย์ ศรีประภา รองผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์เดินทางไปสอบปากคำด้วยตนเอง

ทั้งนี้จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ทำกับข้าวให้นายคำกร ลูกชายเสร็จแล้วกำลังปั่นจักรยานไปในหมู่บ้าน คาดว่าจะไปแลกเงินที่นายคำกรได้ขอเงินพ่อไว้ 20 บาท เพื่อไปซื้อบุหรี่ แต่อยู่ๆนายคำกร กลับคว้าท่อนไม้ต้นหมากวิ่งไปตีหัวพ่อจนล้มลง และกระหน่ำตีแบบไม่ยั้งจนหัวเละเลือดนองเต็มพื้นเสียชีวิตดังกล่าว และหลังเกิดเหตุได้วิ่งหนีไป

อย่างไรก็ตามจากตรวจสอบประวัติผู้ก่อเหตุพบว่ามีอาการทางประสาท และจากการสอบปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหายังคงให้การวกวนพูดจาไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่ยอมรับว่าใช้ท่อนไม้ทุบศีรษะพ่อจริง เนื่องจากโมโหที่ขอเงินไม่ได้ จึงก่อเหตุดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาฆ่าบุพการี แต่ไม่ได้นำตัวไปทำแผน เนื่องจากเกรงว่าจะถูกชาวบ้านรุมประชาทัณฑ์ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ด้านนายทองใบ ตาติยะ อายุ 57 ปี ลูกชายคนโตผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนเป็นลูกชายคนโตของผู้เสียชีวิต แต่คนละแม่กับนายคำกร โดยพ่อและนายคำกร อาศัยอยู่ด้วยกันสองคน ทั้งนี้นายคำกรนั้นมีปัญหาทางประสาทมาหลายปีแล้ว เนื่องจากดมกาวมาตั้งแต่วัยรุ่น ที่ผ่านมาก็พาไปรักษา แต่ก็ไม่หาย และมักจะทำร้ายพ่อบ่อยครั้ง ตนและญาติพี่น้องได้พยายามชวนพ่อไปอยู่ด้วยหลายครั้งแล้ว เนื่องจากเกรงว่าจะถูกนายคำกรทำร้าย แต่พ่อไม่ยอมไป เพราะเป็นเป็นห่วงลูก จนกระทั่งนายคำกรมาก่อเหตุสลดใจดังกล่าว

ขณะที่นายวันชัย พรมรัตน์ อายุ 32 ปี เพื่อนบ้านที่เหตุการณ์ กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุตนได้ยินเสียงเหมือนรถจักรยานล้มอยู่ข้างบ้าน จึงออกมาดูก็เห็นนายคำกร กำลังใช้ท่อนไม้ตีหัวพ่อล้มลง ซึ่งตนก็รีบวิ่งเข้าไปห้ามแต่ไม่ทัน เพราะนายคำกรกระหน่ำตีซ้ำอีกหลายครั้ง ทำให้นายยงค์เสียชีวิตดังกล่าว