สุดสลด! สารวัตรท็อป ควบรถยนต์เสียหลัก พุ่งชนเสาไฟฟ้าดับคาซาก เพื่อนสาวรุ่นน้องนั่งมาด้วยได้รับบาดเจ็บ

สุดสลดสารวัตรสืบสวนสภ.กุมภวาปี เกิดเสียหลักกะทันหันแฉลบชนเสาไฟส่องสว่างแล้วพลิกคว่ำลงร่องกลางถนน คอหักดับ ส่วนเพื่อนสาวรุ่นน้องนั่งมาด้วยได้รับบาดเจ็บ วงจรปิดเห็นชัด พ่อเผยลางบอกเหตุ 2-3 วันก่อนเสียลูกชาย เป็นครั้งแรกที่ต้องหลั่งน้ำตา

 

 

วันที่ 14 เม.ย.65 พ.ต.ต.สถิตย์ ภูบังแสง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งว่า มีเหตุรถยนต์เสียหลักพุ่งชนเสาไฟส่องสว่างเกาะกลางถนนมิตรภาพ (ขาออกตัวเมืองอุดรธานี) บริเวณหน้าวีทีแหนมเนือง ต.บ้านจั่น อ.เมือง จ.อุดรธานี ทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 และมีผู้บาดเจ็บเป็นหญิงที่นั่งมาด้วยกัน 1 ราย อยู่ภายในตัวรถ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี อาสากู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน และอาสากู้ภัยทางหลวงอุดรธานี

 

 

ที่เกิดเหตุพบรถยนต์โตโยต้า ซีเอชอาร์ สีขาว ทะเบียน 8กก 5066 กทม. สภาพพังยับ ที่เบาะนั่งคนขับพบศพ พ.ต.ต.สุขสันติ์ สืบสหการ หรือ สว.ท็อป อายุ 32 ปี สว.สส.สภ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี นรต.รุ่น 66 ส่วนเพื่อสาวรุ่นน้องที่นั่งมาด้วยคือ จ.อ.(หญิง) ณัฐรดา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี ได้รับเจ็บเล็กน้อย

 

จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งบนเสาไฟฟ้าริมถนนใกล้กับจุดเกิดเหตุ พบว่า พ.ต.ต.สุขสันติ์ เป็นผู้ขับขี่รถคันดังกล่าว โดยมี จ.อ.(หญิง) ณัฐรดา นั่งอยู่เบาะนั่งด้านหน้าข้างคนขับ ได้เดินทางออกจากตัวเมืองอุดรธานี เพื่อไปยัง อ.กุมภาวาปี และขับขี่มาด้วยความเร็ว เมื่อถึงที่เกิดเหตุรถเกิดเสียหลักพุ่งชนเสาไฟส่องสว่างเกาะกลางถนน เป็นเหตุให้รถยนต์พลิกคว่ำหลายตลบ ก่อนที่รถจะข้ามมาจอดอยู่บนถนนอีกฝั่งด้วยความแรง ในสภาพรถพังยับเยิน

 

 
 

ด้าน พ.ต.ต.สถิตย์ เปิดเผยว่า อุบัติเหตุครั้งนี้ไม่มีรถคู่กรณี โชคดีที่ไม่เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน เนื่องจากเป็นยามวิกาล ทำให้ไม่ค่อยมีรถ หรือแทบไม่มีรถสัญจรผ่านไปมาขณะเกิดเหตุ อย่างไรก็ตามจะได้สอบสวนหาสาเหตุของอุบัติเหตุที่แท้จริง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

 

ต่อมาเมื่อวันที่ 15 เม.ย. ที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี พ่อแม่และญาติของ พ.ต.ต.สุขสันติ์ สืบสหการ หรือ สว.ท็อป ได้เดินทางมารับศพลูกชาย ก่อนเดินทางไปจุดที่เกิดเหตุ โดยนิมนต์พระสงฆ์ 1 รูป ไปทำพิธีเชิญดวงวิญญาณลูกชายกลับบ้านเกิดที่ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี โดยมีพี่น้องเพื่อนตำรวจทั้งอดีตผู้บังคับบัญชา และอดีตผู้ใต้บังคับบัญชา เดินทางมาร่วมทำพิธีด้วย

 

 


แม่สารวัตรท็อปได้ถือรูปถ่ายของลูกชายที่ใส่เครื่องแบบข้าราชการตำรวจสีขาวลงจากรถแล้วนำไปตั้งเอาไว้ที่ข้างแบริเออร์กั้นแบ่งช่องทางการจราจร พร้อมกับเครื่องเซ่นไหว้ หลังจากทุกคนทำการจุดธูปแล้ว พระสงฆ์ก็นำพิธีสวดเชิญดวงวิญญาณสารวัตรท็อป ท่ามกลางบรรยากาศโศกเศร้าเสียใจของทุกคน โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที หลังจากนั้นครอบครัวก็นำร่างของสารวัตรท็อปเดินทางกลับบ้านเกิดที่ จ.อุบลราชธานี เพื่อประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

 

 

ร.ต.เลิศชัย สืบสหการ อายุ 65 ปี พ่อของสารวัตรท็อป กล่าวว่า เมื่อ 2-3 วันก่อน รู้สึกมีอาการร้อนตัวไปหมด ทำให้อารมณ์ไม่ดีทั้งวัน ไม่คิดว่าจะเป็นลางบอกเหตุร้าย และได้คุยกับลูกชายครั้งล่าสุดทางไลน์ เขาบอกว่าสงกรานต์ปีนี้คงไม่ได้เล่นสาดน้ำและไม่ได้กลับบ้านไปสรงน้ำพ่อแม่ ตนเองเคยเตือนลูกชายบ่อยครั้งในการขับรถว่าอย่าขับรถเร็ว พอเห็นสภาพรถของลูกชายก็ตกใจ ตอนนี้พูดอะไรไม่ถูก และยังทำใจไม่ได้ของการจากไปของลูกชาย ตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยทำให้พ่อแม่เสียใจเลยแม้ครั้งเดียว และเขาเป็นเสาหลักของครอบครัวด้วย ตนมีลูก 2 คน โดยคนโตเป็นผู้หญิง ส่วนสารวัตรท็อป เป็นลูกคนเล็ก และเป็นลูกชายคนเดียว แต่เขาได้ทำงานก่อนพี่สาว ตั้งแต่ตนเป็นทหารมา ไม่เคยร้องไห้เลยสักครั้ง นี่เป็นครั้งแรก ที่ตนต้องเสียน้ำตา และเสียใจที่สุดในชีวิต

 

 

 

 

ขอบคุณ เดลินิวส์/แนวหน้า