เจ้าหน้าที่บินตรง เข้าเจรจาพูดคุยขอให้กลุ่มผู้อพยพเดินทางกลับมาอาศัยอยู่ในบ้านบางกลอย

จากกรณีความขัดแย้งระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กับกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย เกือบ 100 ชีวิต ที่พยายามจะกลับขึ้นไปอาศัยใน “ใจแผ่นดิน” บริเวณหมู่บ้านเดิมในพื้นที่บางกลอยบน อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี จุดที่เคยถูกไล่รื้อและเผาทิ้ง หลังอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้อพยพย้ายลงมาอยู่ในบ้านบางกลอยล่าง ที่จัดสรรให้บริเวณฝั่งซ้ายของแม่น้ำเพชรบุรีจากบ้านโป่งลึก แต่ชาวกะเหรี่ยงอยู่ไม่ได้ เพราะที่ดินเป็นลานหินทำกินไม่ได้ และบางส่วนไม่ได้ที่ดิน แต่มีบางส่วนยังคงอยู่ที่บ้านใจแผ่นดิน

 
 

สำหรับพื้นที่ที่ราษฎรบ้านบางกลอยอาศัยอยู่ในปัจจุบัน ได้มีหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเข้ามาจัดทำโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิต ภายใต้การดำเนินงานของคณะทำงานจัดทำแผนปฏิบัติการเชิงพื้นที่ประยุกต์ตามพระราชดำริบ้านโป่งลึก-บางกลอย ในด้านต่างๆ ได้แก่ การส่งเสริมการเกษตรแบบยั่งยืน การส่งเสริมและพัฒนาการศึกษา การส่งเสริมการสาธารณสุข การส่งเสริมอัตลักษณ์ ชาติพันธุ์ วิถีชีวิต ประเพณี ศิลปวัฒนธรรม และการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เป็นต้น

 

เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 2564 ที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เจ้าหน้าที่ทหาร ฝ่ายปกครอง ตำรวจ และเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ได้สนธิกำลังปฏิบัติภารกิจตามยุทธการพิทักษ์ป่าต้นน้ำเพชร บริเวณป่าบางกลอยบน ในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี หลังจากส่งกำลังเจ้าหน้าที่เข้าสู่พื้นที่โดยเฮลิคอปเตอร์ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน นำโดย น.ส.เนตรนภา งามเนตร หัวหน้าวนอุทยานฯเขานางพันธุรัต ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้ไปยังบริเวณบ้านใจแผ่นดิน ซึ่งตั้งอยู่ในป่าลึกต้นแม่น้ำเพชรบุรี พบ นายนอแอ๊ะ มีมิ (ลูกปู่คออี้) เพื่อเจรจาพูดคุยให้เหตุผลกับ กลุ่มผู้อพยพ ขอให้เดินทางกลับมาอาศัยอยู่ในบ้านบางกลอย บ้านโป่งลึก ต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ภาครัฐจัดให้เป็นที่อยู่อาศัยของกลุ่มชาติพันธุ์ และรับหากมีปัญหาด้านที่ทำกินไม่เพียงพอหรือด้านอื่นๆ อาทิ สถานพยาบาลฯ จะประสานหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ปรากฏมีเพียงราษฎรที่สมัครใจลงมาจากพื้นที่วันนี้ จำนวน 13 ราย และยังเหลือราษฎรที่อยู่ในพื้นที่อีกจำนวน 21 ราย โดย นายนอแอ๊ะ ยังไม่ยินยอมลงมาจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเข้าไปดำเนินการเจรจาต่อไปในวันพรุ่งนี้ (23 ก.พ.)

 

 

 

 

ขอบคุณ ไทยรัฐ