ตลกไม่ออก “เด่น ดอกประดู่” ชีวิตพลิกผัน หิวโซเดินขอข้าววัดกิน-วอนของานทำ

จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก นัด ณัฐพล ทวีไพบูลย์สกุล ได้เผยคลิปเด่น ดอกประดู่  หรือ นายบรรพต วีระรัฐ อดีตดารานักแสดงและตลกอาวุโส ชื่อดัง วัย 74 ปี ถือกระเป๋าลาก 1 ใบ อยู่บริเวณ สถานีขนส่งผู้โดยสาร อ.แม่สอด จ.ตาก โดยในคลิปดังกล่าว เด่น ดอกประดู่ บอกว่า ได้ออกจากบ้านเดินทางมาที่หมอชิตและนั่งรถของบริษัทขนส่งสาย กรุงเทพ-แม่สอด มาถึงแม่สอด จะมาหางานทำ เพราะไม่มีงาน อยากหาที่พักฟรี มีหรือไม่ ใครมีงานให้ทำบ้างยืนยันจะไม่ยอมกลับบ้านที่กรุงเทพอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ยังพูดถึงสมัยอดีตมีลูกศิษย์มากมายได้ดิบได้ดีมากมาย ก่อนที่เด่น ดอกประดู่จะหายไปจากสถานีขนส่งไป และมีคนพบอีกที ที่วัดบางพลีใหญ่กลาง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ มาขอข้าววัดกิน และมีคนนำข้อความมาโพสต์บนเฟซบุ๊กตามหาญาติให้มารับ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่วัดดังกล่าว และทราบว่าน้องชายได้เดินทางมารับกลับไปพักที่บ้านในย่าน ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ แล้ว

ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 221 หมู่ 3 ซอยสวัสดี ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นบ้านของนายบุญช่วย เอี่ยมดีเลิศ น้องชายของ เด่น ดอกประดู่ ที่ได้เดินทางไปรับตัว เด่น ดอกประดู่ จากที่วัดให้มาพักที่บ้าน ซึ่งได้พบ เด่น  ดอกประดู  กำลังนอนพักผ่อนอยู่ภายในบ้าน น้องชายจึงเข้าไปปลุก

โดย เด่น ดอกประดู่  ได้กล่าวว่า สาเหตุที่ออกจากบ้านไป เพราะต้องการออกมาสัมผัสบรรยากาศ เนื่องจากบรรยากาศแต่ละที่นั้นไม่เหมือนกัน และสวยคนละแบบ เมื่อออกมาใช้ชีวิตก็ทำให้ตนมีความสุขมากได้เจอพี่น้องชีวิตผมได้เจอน้องแบบนี้ดีใจมาก  ทั้งนี้เมื่อถามว่าสาเหตุที่ออกจากบ้านเนื่องจากน้อยใจภรรยาหรือไม่ เด่น ดอกประดู่ ได้ตอบว่า ตนไม่ได้น้อยใจใครถึงแม้ภรรยาจะมีดุบ้างในบางครั้ง เนื่องจากเป็นคนละเอียด ยอมรับว่าตนเองก็ได้ดีเพราะภรรยา อย่างไรก็ตามตนเองก็ยังอยากกลับไปทำงาน เมื่อทำงานทำให้ตนเองมีความสุข และไม่เหงา

ขณะที่นายบุญช่วย น้องชาย ได้กล่าวว่า  เมื่อช่วงสายของวันนี้ตนได้รับการประสานจากเจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง ว่า พี่ชายตนมาอยู่ที่วัด จึงได้เดินทางไปรับกลับมาพักอยู่ที่บ้านของตนในย่านแพรกษา ส่วนสาเหตุที่พี่ชายตนออกมาจากบ้านมานั้น น่าจะมาจากเรื่องน้อยอกน้อยใจภรรยาแต่ไม่ทราบว่ารุ่นแรงขนาดไหน เนื่องจากปกติอุปนิสัยของพี่ชายตน ถ้าน้อยใจใครก็จะหนีจากเหตุการณ์นั้นๆ ก่อนหน้านี้ก็ได้หนีออกไปหลายครั้งแล้ว กระทั่งล่าสุดได้ข่าวว่าหนีไปที่ จ.ตาก และกลับมาที่ บางพลี ส่วนสาเหตุที่ไป จ.ตากนั้นทราบเพียงว่าพี่ชายจะข้ามไปที่ประเทศพม่า เมื่อถามว่าจะข้ามไป ทำอะไร พี่ชายก็ยังตอบแบบวกไปวนมาจับใจความไม่ได้และไม่รู้ตัวเองทำอะไรลงไป จนมาทราบว่าพี่ชายได้เดินทางมาที่วัดบางพลี อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ตนก็พอจะทราบมาบ้างว่าพี่ชาย เริ่มมีอาการ อัลไซเมอร์และเคยเข้าไปรักษาแต่ไม่มั่นใจว่ารักษาขนาดไหน อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ตนก็คงต้องดูแลพี่ชายไปก่อน ถ้าปล่อยไปก็กลัวออกจากบ้านไปอีก เพราะทุกคนก็เป็นห่วงเนื่องจากพี่ก็อายุมากแล้ว ถ้าให้ออกไปก็คงจะไปทำอะไรไม่ได้เพราะอายุก็มากแล้ว