เตรียมแก้กฎหมายใหม่ ยาบ้า 5 เม็ด เป็นผู้ค้า หากเจ้าหน้าที่มีเอี่ยวโดนหนัก

พล.อ.ประยุทธ์ เตรียมปรับกฎหมายใหม่ ​ยาบ้า​ 5 เม็ดเป็นผู้ค้า จัดตั้งศูนย์คัดกรองทุกตำบล ฮึ่มพบ จนท.เอี่ยวดำเนินการขั้นเด็ดขาด

 

 

เมื่อเวลา 11.40 น. วันที่ 12 ต.ค.65 ที่ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังการประชุมเพื่อกำหนดมาตรการเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหายาเสพติดและอาวุธปืน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ โดยมีบรรดาคณะรัฐมนตรี รวมทั้ง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ร่วมแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในเรื่องมาตรการการป้องกันและปรายปราม การกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งวันนี้เราทำอย่างเต็มที่ ในเรื่องการควบคุมการนำเข้าและส่งออกสารเคมี การเร่งติดตามการสืบสวนและขยายผล ทำลายเครือข่ายนักค้ายาเสพติดและการยึดอายัดทรัพย์สิน การบูรณาการ นำผู้เสพเข้าสู่ระบบศูนย์ข้อมูล การทบทวนกรณีผู้เสพเป็นผู้ป่วย ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับประเด็นปริมาณการครอบครองเพื่อนำไปสู่การฟื้นฟู เรื่องนี้ต้องไปทบทวน และพิจารณาดู ซึ่งในที่ประชุมก็ได้พูดถึงปริมาณ 5 เม็ด หรือ 15 เม็ด ถ้าจำเป็นต้องปรับแก้กฎหมายเหล่านี้ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในส่วนเจ้าหน้าที่และข้าราชการที่เกี่ยวข้อง ต้องลงโทษอย่างเด็ดขาดในทุกกรณีที่เข้าไปเกี่ยวข้องโดยทันที สำหรับมาตรการบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดจำเป็นต้องเร่งค้นหา คัดกรองผู้ป่วยเข้าสู่สถานฟื้นฟูภาคีเครือข่าย เร่งจัดตั้งศูนย์คัดกรองให้ครบและครอบคลุมในทุกตำบล ทั้งกระทรวงสาธารณสุข ส่วนท้องถิ่น และสถานบำบัดรักษาให้เป็นไปตามมาตรฐานของสากล ซึ่งกระบวนการบำบัดให้ใช้ชุมชนเป็นฐาน ซึ่งวันนี้ต้องหาให้ได้ว่าในพื้นที่ ในท้องถิ่น ชุมชนหมู่บ้าน มีจำนวนผู้ติดยาเสพติดมากน้อยแค่ไหนอย่างไร เพราะพูดกันไปมาว่าพื้นที่ตรงนั้นตรงนี้มีมากต้องเข้าไปเอกซเรย์คัดคนพวกนี้ออกมา เพื่อเข้าสู่กระบวนการให้ได้

 

 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในส่วนของชุมชนถือเป็นส่วนสำคัญที่จะต้องช่วยกับทางรัฐ และส่วนราชการโดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่มีพฤติกรรมเกี่ยวกับเรื่องที่ชอบความรุนแรง มีปัญหาส่วนตัว ติดยาเสพติด ที่ประชุมมีข้อเสนอว่าจะต้องมีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อติดตามดูแลคนเหล่านี้

 

เรื่องต่อไปคือการพัฒนาแก้ไขปัญหาในเรื่องของสุขภาพจิต วันนี้ได้เน้นย้ำให้ไปดูแลระบบสุขภาพจิตในโรงเรียน สถานศึกษาทุกแห่ง สถานประกอบการต่างๆที่มีพนักงานจำนวนมากและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับอาวุธร้ายแรง ต้องหารือร่วมกันในส่วนของการบำบัดฟื้นฟูต้องดำเนินการโดยทันที

ทั้งกลุ่มงานจิตเวชและการปราบปรามยาเสพติดในทุกอำเภอ มีการตั้งกองอำนวยการจิตเวชฉุกเฉินทุกอำเภอเพื่อดูแลเบื้องต้นเรื่องจิตเวชในทุกโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล โดยใช้วิธีการชุมชนบำบัด มีสิทธิประโยชน์ต่างๆในการรักษาจิตเวชทางไกล เพื่อสามารถดูแลต่อเนื่องในชุมชน

“วันนี้ได้หารือในหลายเรื่องด้วยกัน ซึ่งความจริงแล้วรัฐบาลเข้มงวดกับเรื่องเหล่านี้มาโดยตลอดอย่างต่อเนื่องแต่ยังมีปัญหาอยู่ อีกทั้งวันนี้เป็นปัญหาที่ซ้อนปัญหาในเรื่องการใช้อาวุธปืน และเรื่องการก่อเหตุรุนแรง อีกทั้งมีพฤติกรรมที่เกิดขึ้นจากผู้ที่ติดยาเสพติดและผู้ที่ไม่ติดยา เป็นเรื่องที่ห่วงใยในฐานะของรัฐบาล ผมจะพยายามทำให้ดีที่สุด

 

ซึ่งวันนี้ในที่ประชุมทั้งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ให้ความกรุณาในการเสนอแนะข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์หลายอย่างได้ทบทวนและใช้เวลาในการดำเนินการ แต่อะไรที่ทำได้จะทำทันที จึงขอเตือนไว้ด้วยว่าทุกคนต้องช่วยกัน วันนี้แจ้งข่าวในช่องทางพิเศษอยู่แล้ว ขอให้แจ้งกันมาในช่องทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการโดยทันที

 

ยืนยันอีกครั้งว่ารัฐบาลให้ความสำคัญอย่างที่สุดอย่างยิ่งยวด ซึ่งในการหารือกันก็พูดถึง อุปสงค์และอุปทานรวมทั้งการแก้ไขปัญหากับผู้เสพรายใหม่ การดูแลว่าจะต้องทำอย่างไรในชุมชน ทั้งหมดเป็นระบบทั้งในเรื่องของการป้องกันและป้องปราม การปราบปรามและการบำบัดรักษา จะต้องทำอย่างครบถ้วน ซึ่งต้องขอทางสื่อมวลชนช่วยทำความเข้าใจด้วยว่ารัฐบาลไม่เคยปิดกั้นใครในการรับข้อมูลก็ขอให้แจ้งเข้ามา จะได้นำไปสู่การแก้ปัญหาได้”

 

 

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะต้องมีการเร่งรัดการดำเนินการในสถานศึกษาหรือไม่ นายกรัฐมนตรีเพียงแต่พยักหน้ารับ และเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าในทันที ก่อนที่สื่อมวลชนจะถามย้ำว่าคณะกรรมการชุดนี้มีความแตกต่างจากคณะกรรมการชุดอื่นอย่างไร โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวสั้นๆเพียงว่า “เดี๋ยวให้เลขาฯเป็นผู้ชี้แจง”

 

อย่างไรก็ตามก่อนที่จะเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงกรณีที่วานนี้ (11 ตค.) นายกรัฐมนตรีมีการสั่งการให้ตรวจสอบเรื่องงบประมาณ 50 ล้านบาทที่หายไป ในการเยียวยาเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ตอบคำถามดังกล่าว

 

 

 

ขอบคุณ แนวหน้า