เบื้องหลังคำสั่งไม่ฟ้อง ‘บอส อยู่วิทยา’

จนถึงตอนนี้ ฝ่ายอัยการยังไม่ออกมาชี้แจงอะไรถึงการสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้อง ‘วรยุทธ อยู่วิทยา’ หรือบอส หลานของผู้ก่อตั้งแบรนด์เครื่องดื่มชูกำลังกระทิงแดง จากเหตุขับรถหรูชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ตำรวจจราจร สน.ทองหล่อ ถึงแก่ความตาย เหตุเกิดเมื่อปี พ.ศ.2555

จนทำให้เจ้าตัวหลุดทุกคดี นำไปสู่การเพิกถอนหมายจับ และทำให้สามารถเดินทางกลับประเทศได้ หลังหลบคดีหมายจับอยู่นานหลายปี

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าว The MATTER มีโอกาสเห็นคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องคดีนี้ของพนักงานอัยการ จึงขอสรุปข้อเท็จจริงให้ทุกๆ คนได้อ่านและช่วยพิจารณากันว่า การสั่งไม่ฟ้องคดีนี้สมเหตุสมผลหรือไม่ หรือว่ามียังมีข้อน่าสังเกตใดๆ อยู่

1.) ข้อเท็จจริงคดีนี้ เหตุเกิดวันที่ 3 กันยายน พ.ศ.2555 เวลาประมาณ 05.20 น. บอส อยู่วิทยา ขับรถยนต์ Ferrari บนถนนสุขุมวิท บริเวณขาออก มุ่งหน้าไปพระโขนง เลนขวาสุดติดเกาะกลางถนน ไปชนรถจักรยานยนต์ตราโล่ห์ของ ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ตำรวจจราจร สน.ทองหล่อ บริเวณระหว่างซอยสุขุมวิท 47 และ 49 ร่างของ ด.ต.วิเชียรตกจากรถจักรยานยนต์ไปชนกระจกหน้ารถของบอส และตกลงไปบนพื้นถนน ถึงแก่ความตาย

2.) พนักงานสอบสวนของตำรวจ ตั้งข้อหาไว้เบื้องต้น 5 ข้อหา ก่อนจะส่งสำนวนให้อัยการสั่งฟ้องเพียง 4 ข้อหา และต่อมาอีก 3 ข้อหาก็ทยอยหมดอายุความในปี พ.ศ.2556 และปี พ.ศ.2559 ตามลำดับ เหลือเพียงข้อหา ‘ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย’ เป็นข้อหาสุดท้าย

3.) ทนายความของบอส อยู่วิทยา ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมหลายครั้ง กระทั่งอัยการสูงสุด (อสส.) สั่งให้ยุติเรื่องขอความเป็นธรรม ก็ยังยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม มายัง อสส. และคณะกรรมาธิการกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมและกิจการตำรวจ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)

จน อสส.ต้องสั่งให้พนักงานสอบสวน ทำการสอบสวนพยานหลักฐานเพิ่มเติม – แม้เคยสั่งยุติการรับเรื่องขอความเป็นธรรมไปแล้ว

4.) พยานหลักฐานใหม่ที่ได้

– ‘พันตำรวจตรี ธ.’ ตำรวจจากสำนักงานพิสูจน์หลักฐาน เปลี่ยนคำให้การ จากเคยระบุหลังเกิดเหตุใหม่ๆ ว่า รถ Ferrari ของบอส อยู่วิทยา น่าจะวิ่งด้วยความเร็ว 177 กม./ชั่วโมง (คลาดเคลื่อนบวกลบ 17 กม./ชั่วโมง) แต่ในปี พ.ศ.2559 กลับบอกว่า น่าจะวิ่งด้วยความเร็ว 79.23 กม./ชั่วโมง

– มีการอ้างความเห็น อ.จากภาควิชาวิศวกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ซึ่งสอบถามเมื่อปี พ.ศ.2560 ว่าความเร็วรถ Ferrari น่าจะอยู่ที่ 76.175 กม./ชั่วโมง (จากเดิม ตำรวจเคยอ้างความเห็น อ.จากภาควิชาฟิสิกส์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งตรวจภาพจาก CCTV ของศูนย์บริการรถหรูแห่งหนึ่ง ปากซอยสุขุมวิท 47 ว่ารถ Ferrari น่าจะวิ่งด้วยความเร็ว 177 กม./ชั่วโมง)

– สอบสวนพยานบุคคลเพิ่มเติม 2 ปากในปี พ.ศ.2562 ได้แก่ ‘พลอากาศโท จ.’ และ ‘นาย จ.’ ซึ่งอ้างว่า ขับรถยนต์ตามหลังรถของบอส อยู่วิทยา ในวันเกิดเหตุ พบว่ารถจักรยานยนต์ของ ด.ต.วิเชียร เปลี่ยนเลนกระทันหันจากเลนซ้ายสุด ไปยังเลนขวาสุด ในระยะกระชั้นชิดทำให้เกิดเหตุดังกล่าวขึ้น โดยพยานยังอ้างด้วยว่า รถของบอส อยู่วิทยา น่าจะมีความเร็วระหว่าง 50-60 กม./ชั่วโมง

5.) มีการตั้งข้อสังเกตว่า ผลตรวจร่างกายของบอส อยู่วิทยา หลังเกิดเหตุโดย รพ.รามาธิบดี อาจพบสารเสพติด แต่ในเอกสารของพนักงานอัยการ บอกเพียงว่ามีการนำตัวบอสไปตรวจร่างกายที่ รพ.บำรุงราษฎร์ เท่านั้น (ไม่ระบุผล)

6.) สำหรับผู้มีคำสั่งไม่ฟ้องบอส อยู่วิทยา ทำให้คดียุติโดยสมบูรณ์ ในฝั่งอัยการก็คือ ‘นาย น.’ อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีศาลสูง ขณะรักษาการตำแหน่งรอง อสส. ส่วนการไม่คัดค้านคำสั่งไม่ฟ้อง ในฝั่งตำรวจ ก็คือ ‘พลตำรวจโท พ.’ ผู้ช่วย ผบ.ตร.

7.) หลายๆ คนยังรอตั้งคำถามกับ อสส. ถึงเหตุผลที่สั่งไม่ฟ้อง ตามเอกสารดังกล่าว รวมถึงรอจะตั้งคำถามกับคณะกรรมาธิการกฎหมายฯ ของ สนช. ซึ่งมีสมาชิกเป็นตำรวจยศใหญ่ๆ จำนวนมาก ว่าเหตุใดถึงเข้ามามีส่วนร่วมในคดีนี้ได้ และการเข้ามามีส่วนร่วมดังกล่าวมีอิทธิพลต่อคดีมากน้อยเพียงใด

8.) ล่าสุด มีความเคลื่อนไหวจากอัยการแล้ว โดย อสส. มีคำสั่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยเร็ว! หากมีความคืบหน้าใดๆ จะแจ้งให้ประชาชนทราบต่อไป

อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก

จดหมายเปิดผนึกถึงอัยการสูงสุดและผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติตามที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งไม่ฟ้องในคดีของนายวรยุทธ อยู่วิทยา…

Posted by อานนท์ นำภา on Friday, July 24, 2020

ภาพวงจรปิดแสดงรถเฟอรารี่ของนายวรยุทธ อยู่วิทยา โปรดดูความเร็วเทียบกับรถคนอื่น ( นาที่ 05:34:17 )

Well …… For you to decide

Posted by Sathon Vijarnwannaluk on Thursday, July 23, 2020

#Brief #TheMATTER