เมียหลวงฟ้องเมียน้อย 3 แสน เหตุแย่งผัว งานนี้สุดอลเวงเมียน้อยเล่าอีกอย่างเมียหลวงเล่าอีกอย่าง

เมียน้อย ยกมือขอโทษ เมียหลวง เป็นชู้กับฝ่ายชาย รับเพราะมีใจ ไม่ได้ถูกข่มขืนจนตั้งท้อง วันนี้ขอจบ ไม่รักอีกฝ่ายแล้ว วอนสื่อช่วยไกล่เกลี่ย อยากจบทุกอย่างแล้ว

 

 

จากกรณี  “เมียน้อย” ร้องไห้สะอื้น โดน “เมียหลวง” ฟ้องเรียกเงิน 3 แสนบาท หลังแอบไปมีสัมพันธ์กับสามีจนตั้งท้อง พร้อมเตรียมนัดเพื่อคุยไกล่เกลี่ย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

 

เมียน้อยสะอื้นหนัก โดนเมียหลวงฟ้อง 3 แสน หลังแอบมีสัมพันธ์กับสามีจนตั้ง

 

วันที่ 28 มิ.ย. ความคืบหน้าเรื่องดังกล่าว น.ส.ส้ม (นามสมมติ) ที่ถูกกล่าวหาเป็นเมียน้อย เปิดใจในรายการ “โหนกระแส” ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า ฝ่ายชายได้เบอร์ตนมาจากไหนไม่ทราบ แล้วโทร.มาหาตน ถามว่าจีบได้ไหม ซึ่งตนก็ไม่เคยรู้ว่าเขามีเมียอยู่แล้ว หรือไม่มี จากนั้นก็คุยกันเรื่อยมา ก่อนที่ฝ่ายชายจะไปจดทะเบียนสมรสกับ น.ส.แพรว (นามสมมติ) ผู้หญิงอีกคน ที่เป็นเมียหลวง เราก็ตกใจ ว่าแฟนเราที่คุยอยู่ไปจดทะเบียนกับอีกคน ตนก็ร้องไห้ และว่าถ้าเป็นแบบนี้ก็ต้องจบกัน แต่ฝ่ายชายไม่ยอมจบ และพยายามมาหาตนตลอด เวลา 2 ปี จนเริ่มมีความรู้สึกดี ทั้งๆ ที่รู้ว่าเค้าจดทะเบียนกับอีกคนไปแล้ว ซึ่งก็ต้องยอมรับว่า มีความสัมพันธ์กัน ระหว่างนั้นก็ได้มีการคุยกับเมียหลวงเขาบ้าง ซึ่งเขาทักว่าให้ฝ่ายชายเอารถจักรยานยนต์มาคืน ตนก็ยอมรับว่า พูดไม่ดีใส่เขา ประมาณว่า บอกเองสิ โทร.เองสิ นอกจากนี้ก็ยอมรับว่า โพสต์เฟซบุ๊กข้อความที่ไม่ดีใส่เขา ซึ่งมันก็เป็นอารมณ์ 

เมื่อถามว่า รู้ว่าเขามีเมียแล้ว ทำไมไม่เอาตัวเองออกมา น.ส.ส้ม บอกว่า ตนพยายามเอาตัวเองออกมาตลอดเวลา หนีไปนอนบ้านคนอื่น แต่เขาก็ยังตามไปที่ทำงาน 

 

 

ส่วนที่เขาฟ้อง 3 แสนนั้น อาจเป็นเพราะว่าตนไปแจ้งความเขา ที่โพสต์รูปอนาจารของตน และที่เขากล่าวหาตนเป็นคนไม่ดี ก่อนที่จะมีจดหมายจากทนายมา ให้ตนชดใช้ค่าทดแทน กรณีที่เป็นหญิงชู้ จำนวนเงิน 300,000 บาท

 

 

 

ระหว่างนั้น มีการสอบถาม น.ส.แพรว เมียหลวง ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดย น.ส.แพรว ยอมรับว่า ฟ้องจริง 300,000 บาท เพราะเขาเป็นชู้กับสามีเรา ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมา ก็มีการเตือนมาตลอด ให้โอกาสตลอด แต่เขาไม่หยุด ซึ่งก่อนหน้าเราก็บอกเขาแล้วว่าจะให้ทนายฟ้อง เขาก็ส่งข้อความมาว่าจะหยุด แต่สุดท้ายก็ไม่หยุด ไม่ถึงอาทิตย์ก็ส่งข้อความมาหาผู้ชายว่า ว่างไหม มารับหน่อย และก็ไปหากัน ซึ่งเรื่องนี้ เรารู้มานานแล้ว เพราะก่อนที่จะจดทะเบียน เราก็อยู่กินกับแฟนมาได้ประมาณ 1 ปีแล้ว และพอมารู้ว่าเขานอกใจ เลยพาไปจดทะเบียน 

 

เมื่อถามว่า รู้ไหมว่าฝ่ายชายคบซ้อน ทั้งกับแพรวเอง และ น.ส.ส้ม ซึ่งทาง น.ส.แพรว บอกว่า เราคบกับแฟนมาก่อน และมารู้ว่าเขาคบกัน ก็เพราะ น.ส.ส้ม ทักเฟซบุ๊กตนมาก่อน ซึ่งเราก็คุยกับเขา ให้เขาหยุด ที่ผ่านมาเราโดนแซะมาตลอด ถูกโพสต์ต่อว่ามาตลอด ทั้งยังส่งรูปพวกนี้มาหาตน ซึ่งหากเราจะประจาน เราคงทำไปตั้งแต่แรก โดยตนยอมรับว่า เอารูป น.ส.ส้ม ที่มีอะไรกับแฟน ไปลงจริงในเฟซบุ๊กของตัวเอง และก็ไม่ได้เปิดสาธารณะ 



และตนก็ไม่เชื่อว่า หาก น.ส.ส้ม ไม่ได้อยากจะยุ่งกับสามีตนเอง คงแจ้งตำรวจไปแล้ว เวลาเขามาหา ซึ่งเรื่องนี้เราไม่ได้โทษเฉพาะผู้หญิง เราก็โทษผู้ชายด้วย เรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องของคนสองคน ถ้าไม่ชอบ ก็เรียกตำรวจมาเอาตัวไป หรือปฏิเสธก็ได้ ซึ่งตอนนี้สามีเลี้ยงลูกวัย 2 เดือนอยู่ แต่หลังจากนี้ ก็มีวิธีดำเนินการกับฝ่ายชายอยู่ แต่ไม่สามารถที่จะบอกได้ ซึ่งตั้งแต่เกิดเรื่องแม้จะอยู่กับสามี แต่ก็ไม่คุยกัน 

 

เมื่อถามว่า น.ส.ส้ม อยากจะเคลียร์อะไรกับ น.ส.แพรวหรือไม่ ซึ่ง น.ส.ส้ม บอกว่าถ้าทำอะไรผิด ก็ขอโทษ เพราะตอนนี้เข้าใจความรู้สึกของ น.ส.แพรวแล้ว พร้อมกับยกมือไหว้ ซึ่งทาง น.ส.แพรว ก็พูดต่อว่า เรื่องนี้เราให้โอกาสมา 2 ปีแล้ว แต่ น.ส.ส้ม เลือกที่จะปฏิเสธโอกาสนั้นเอง ซึ่งหลังจากนี้ ก็ให้ไปตกลงกันที่โรงพัก เพราะครั้งนี้ อยากให้มีลายลักษณ์อักษรยืนยัน แต่หลังจากนี้ หากสามีจะไปหาอีก ก็ไม่เอาแล้ว

 

นอกจากนี้ น.ส.แพรว ยังได้ตั้งคำถามว่า ทำไม น.ส.ส้ม ถึงบอกว่า ตัวเองโดนข่มขืน โดย น.ส.ส้ม ชี้แจงว่า พูดจริง แต่เพราะเป็นสภาวะกดดัน อยากจบ อยากหนีปัญหา เลยพูดไปแบบไม่ทันคิด แต่จริงๆ แล้วไม่ได้ถูกข่มขืน

 

 

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทนายแก้ว ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล เห็นว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สามารถเจรจา ทำสัญญาประนีประนอมที่ศาลได้ เพราะต่างคนก็ต่างยอมรับว่ามีการโพสต์ถึงกันด้วยคำหยาบ และเมื่อทนายแก้วถามว่า ในส่วนของค่าเสียหาย ต่างฝ่ายต่างจบ โดยที่ไม่เรียกร้องใดๆ ต่อกันได้หรือไม่ น.ส.แพรว ก็ยืนยันว่าได้ เพราะเราก็ให้โอกาสเขาตลอด ครั้งนี้ก็ให้โอกาส แต่ครั้งนี้ตนขอให้มีลายลักษณ์อักษรยืนยัน เป็นครั้งสุดท้าย ไม่เหมือนครั้งที่ผ่านๆ มา ซึ่งทาง น.ส.ส้ม บอกว่า “ได้ค่ะ” 

 

 

เมื่อถามว่า หากฝ่ายชายยังลอบไปหาอีก น.ส.แพรว บอกว่า ตนเคยบอกว่า หากไปหา ก็ให้เรียกตำรวจได้เลย ไม่ใช่ไม่บอก แต่เขาก็เลือกที่จะไม่เรียกตำรวจเอง 



เมื่อถาม น.ส.ส้ม ว่า วันนี้ยังจะรักฝ่ายชายอยู่ไหม น.ส.ส้ม บอกว่า ไม่แล้วค่ะ ส่วนลูกก็ขอเลี้ยงเอง และหากฝ่ายชายจะเลิกกับเมียหลวงแล้วมาอยู่กับตน ก็ไม่เอา เพราะสงสารเมียหลวงกับลูกเขาเหมือนกัน ถามว่ารักไหม รัก แต่ก็ต้องถอย เพราะอยากจบ

 

 

 

 

ขอบคุณ Sanook.com/โหนกระแส