เหยื่อช็อก อยากซื้อบ้าน แต่สเตทเมนต์ไม่สวย ถูกคนรู้จักหลอกให้เปิดบัญชี สุดท้ายโดนภาษี 800 ล้าน

ผู้เสียหายร้องสื่อระยอง อยากซื้อบ้าน แต่สเตทเมนต์ไม่สวย ถูกคนรู้จักหลอกให้เปิดบัญชี เพื่อเดินบัญชีให้ ไม่กี่เดือนโดนสรรพากรเรียกเก็บภาษีร่วม 800 ล้านบาท พร้อมหมายเรียกจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

 

 

วันที่ 5 ก.ย. 65 นายพิทักษ์ ศิริวงศ์ นายกสมาคมพิทักษ์ไทย ได้พานายกุลวัฒน์ ปวรุตม์กุลธวัช อายุ 42 ปี และ น.ส.สุรนุช สังขทิพย์ อายุ 29 ปี ขอความช่วยเหลือ หลังถูกคนรู้จักหลอกให้เปิดบัญชีธนาคาร อ้างว่าจะเดินบัญชีให้ สุดท้ายมาถูกสรรพากรเรียกเก็บภาษี กว่า 800 ล้านบาท

 

 

น.ส.สุรนุช กล่าวว่า ตนได้รู้จักกับ น.ส.ณัฐยาน์ มิกขุนทด อายุ 46 ปี และสามี (เสียชีวิตไปเมื่อเดือนต.ค.64) ที่เป็นเจ้าของบริษัทหลายแห่ง กระทั่งตนต้องการกู้ธนาคารซื้อบ้าน แต่ติดตรงที่ไม่มีการเดินบัญชี ทางสามีของน.ส.ณัฐยาน์ จึงเสนอว่า ให้ไปเปิดบัญชีธนาคาร แล้วจะเดินบัญชีให้ จะได้กู้ธนาคารผ่าน ด้วยความที่อยากได้บ้านจึงตกลง และไปเปิดบัญชีธนาคาร ครั้งแรก เมื่อ ปี พ.ศ. 2563

 

 

โดยเปิดบัญชีที่ ธนาคารกสิกร สาขา เซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์ ซึ่งสมุดธนาคาร บัตรเอทีเอ็ม อยู่กับเขาหมด รวมถึงแอปธนาคาร ก็อยู่ในมือถือของพวกเขาหมด แต่ด้วยความเชื่อใจและรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จึงไม่คิดว่าจะถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด จึงไม่เคยสนใจขอดูความเคลื่อนไหวของบัญชีเลย ต่อมาสามีของ น.ส.ณัฐยาน์ เสียชีวิต เมื่อเดือน ต.ค.64 น.ส ณัฐยาน์ ก็เข้ามาดูแลแทน โดยให้ตนเปิดบัญชีเพิ่มอีก

 

กระทั่ง เมื่อวันที่ 20 พ.ค.65 ได้มีหนังสือจาก สรรพากรพื้นที่ร้อยเอ็ด ส่งมาหาเป็นหนังสือเตือน ให้ไปชำระเงินภาษีอากรคงค้าง โดยระบุชื่อของตนในฐานะผู้ต้องร่วมรับผิดชอบในหนี้ของ หจก.ธานี รุ่งถาวรสตีล โดยระบุว่า หจก.ดังกล่าวค้างค่าภาษีอากรอยู่กับสำนักงานสรรพกรพื้นที่สระแก้ว ลงวันที่ 8 ก.พ. 65 เป็นเงินจำนวน 867,958,621.33 บาท โดยให้ไปชำระที่ สรรพากรพื้นที่อาจสามารถ ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ หากพ้นกำหนดจะต้องถูกดำเนินตามมาตรา 32 แห่งประมวลรัษฎากร

 

 

น.ส.สุรนุช กล่าวต่อว่า หลังจากรับหนังสือ ตนถึงกับช็อก เพราะไม่เคยรู้เรื่องหรือเกี่ยวข้องกับ หจก.ดังกล่าวเลย คงจะเป็นการนำหลักฐานบัตรประชาชน ไปเปิดบัญชี คงจะมีการนำไปใช้ในเรื่องดังกล่าว จึงนำเรื่องไปปรึกษาทนายความ พร้อมทั้งโทรไปชี้แจงกับทางสรรพากร รวมถึงโทรหา น.ส.ณัฐยาน์ ซึ่งอ้างว่าจะจัดการให้ สุดท้ายก็เงียบหายไปติดต่อไม่ได้

 

ด้าน นายกุลวิวัฒน์ กล่าวว่า ตนก็ถูก น.ส.ณัฐยาน์ หลอกว่าจะเดินบัญชีให้ เพื่อกู้ซื้อบ้านเหมือนกัน จึงไปเปิดบัญชี ธนาคารกสิกรไทย ผ่านไป 3 เดือน ได้พบกับ น.ส.สุรนุช พอทราบเรื่อง รู้ว่าถูกหลอกแน่ จึงตรวจสอบบัญชีธนาคารพบว่า ชื่อบัญชีคือ บจ.นวทรัพย์ รีไซเคิล แอนด์ สตีล จำกัด โดยมีตนเป็นกรรมการบริหารคนเดียว ตรวจสอบพบมีเงินหมุนเวียนกว่า 200 ล้านบาท จึงรีบไปลงบันทึกประจำวันที่ สน.โชคชัย ไว้เป็นหลักฐาน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ว่าตนเองไม่มีส่วนรู้เห็นในเงินดังกล่าว

 

ต้องการให้ตรวจสอบ หาตัวผู้ที่มาหลอกตนเองไปเปิดบัญชี ซึ่งไม่สามารถติดต่อได้ คาดคงจะทำกันเป็นขบวนการใหญ่ เพราะมีเงินหมุนเวียนเข้าออกวันละหลายล้านบาท ตนเองเครียดมาก เพราะไม่มีปัญญาจะหาเงินไปชดใช้ค่าภาษีจำนวนมากได้ แค่อยากกู้ซื้อบ้าน แต่กลับต้องมาถูกหลอก ยังไม่รู้จะหาทางออกอย่างไร

 

 

 

 
 
 
 
 
ขอบคุณ ข่าวสด/เนชั่นออนไลน์