ไจแอนท์-น้ำหวาน ลูกน้องเก่าของ คิวเท โอปป้า เผยยังรักและอยากทำงานร่วมกัน

คิวเทโอปป้า Youtuber ชื่อดังชาวเกาหลี  โดนลูกน้อง 4 คนรุมต่อว่า ขอเงินเดือนเพิ่ม โดยหนึ่งในนั้นเป็นโจร ขโมยของไปขายเว็บมือสอง ต่อมาลูกน้อง 2 ใน 4 ออกมาแจงแล้ว เผยรักและอยสกทำงานร่วมกัน

 

 

 

ก่อนหน้านี้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ออกมาโพสต์ข้อความ คาดว่าเป็นทีมงานคู่กรณีของ คิวเท ออกมาโพสต์ข้อความว่า

 

“คือทำงานด้วยกัน เงินเดือนก็ต้องแฟร์ๆกันปะวะ ถ้าไม่มีคนทำงานให้มึง แล้วมึงจะมีงานออกมาสู่โลกภายนอกเปล่า ช่องคนติดตามเกือบสิบล้านเงินเดือนพนักงานแค่สามหมื่น คือไม่ว่าจะบริษัทอะไรก็แล้วแต่ พอแรงงาน เห็นรายรับที่นายจ้างได้ แล้วรู้ฝึกไม่แฟร์กับเงินเดือนที่เขาได้กับงานและ

ชั่วโมงงานที่ทำ ความรุนแรงที่สะสมไว้มันก็ต้องระเบิดออกปะวะ – นินทาเจ้านาย ขโมยของ ประท้วง นัดหยุดงาน อยากออกจากงาน เผาโรงงาน

อะไรก็แล้วแต่ คือเป็นมึงมึงจะทนอ่อ”

“แล้ว นายจ้าง ก็ต้องรู้ตัวเองแล้วไหมว่า เออ กูทำอะไรให้พวกแม่งไม่พอใจ โอเคมาคุยกัน มาปรับโครงสร้างเงินเดือนกัน แล้วไม่ต้องพูดเรื่องวุฒิอะ

จบป.เหี้_ป.ห่าอะไรก็ได้ แค่ทำงานที่ได้รับมอบหมายได้ก็โอเคแล้วป่าว เข้าใจ สังคมไทย ค่าของงานไม่ได้อยู่ที่ตัวงานจริงๆ แต่แม่งอยู่ที่วุฒการ

ศึกษา เรียนน้อยๆก็อยู่โง่ๆจนๆไป แล้วไม่ต้องพูดเรื่องเลี้ยงข้าวอ่ะ มึงเอาเงินเลี้ยงข้าวไปเป็นเงินเดือนให้เขาก็ได้ แต่มึงไม่ทำ เพราะท่แบบนั้นแล้ว

มันดูมีบุญคุณดี แถมไม่ต้องเพิ่มเงินเดือนด้วย มันเป็นวัฒนธรรมทุนนิยมอ่ะ (คือแทนที่จะให้เงินเดือนๆเยอะ แต่เปลี่ยนมาเป็นเลี้ยงข้าวบางโอกาส

แทนเพื่อลดต้นทุน จะด้วยความไม่ตั้งใจหรือตั้งใจอะไรก็แล้วแต่ แต่มันลดต้นทุนค่าแรงงานจริง+เพิ่มloyalty แล้วเอามาอ้างทวงบุญคุณได้จริง) แล้ว

มีคนออกมาปกป้องชนชั่นนายทุนพวกนี้กันเพียบ กูถามจริงๆ พวกมันเคยให้อะไรพวกมึงปะ ประเทศไทยจงเจริญ ไปแหกตาดูบริษัทอื่นที่เขาให้เงิน

แบบแฟร์บ้างๆ บางช่องบางบริทัษที่จัดการเงินเดือนแบบแฟร์ๆกัน คนติดตามไม่ถึงล้านยังแบ่งเงินได้คนล่ะมากกว่านี้เลย แล้วประเทศที่เขาเจริญๆก็มาจากการต่อสู้ของแรงงานทั้งนั้น แต่ประเทศสันตีนนี้ ยอมให้เขาขูดรีด โง่ๆ แถมยังชอบปกป้องผู้ขูดรีดอีก ไอพวกนายทุนก็ชอบเลย แรง

งานเชื่องๆโง่ๆอ่ะ ยิงกูติ”

“คือเจ้านาย นายทุน มันอาจจะไม่รู้ตัวอ่ะ สนับสนุนให้แรงงานทุกคนออกมาพูด ออกมาต่อสู้ ไม่ต้องพินอบพิเทา ไม่ชอบอะไรก็บอกไม่ชอบ มันจะได้รู้

ว่าว่าเออ กุไม่ค่อยพอใจมึง เจ้านายสั่งงานนอกเวลา คือเวลาพักคือเวลาพัก วันหยุดคือวันหยุด ไม่ว่างคือไม่ว่างแต่เออว่างแล้วเดี๋ยวทำให้ แรงงาน

ควรบอกเงินเดือกับเพื่อนร่วมงาน จะได้มาดูกันว่างานเดือนกับงานต่างๆของคนอื่นว่าเออ มันแฟร์รีเปล่า แล้วมาต่อรองต่อสูกัน เพิ่งรู้ว่าปัจจุบันยังมี

บริษัทที่ไม่ให้พนักงานบอกเงินเตือนอยู่ โคตรเหี้ย”

“ปล.มีทัวร์มาลงแน่ แต่แหกตาดูก่อนว่ากุวิพากษ์วิจารณ์เรื่องเงินเดือน เรื่องการต่อสู้ของแรงงาน ประเด็นอื่นๆที่แรงงานทำอะไรไม่ดีมันก็ไม่ดี อะไร

นายจ้างทำดีมันก็ดี”

 

ไม่มีคำอธิบายรูปภาพ

 

นอกจากนี้ยังมีการโพสต์ข้อความอย่างต่อเนื่องว่า “เอออเอาดีๆ แรงงานไทยจงเจริญ”

“พนักงานเซเว่น พนักงานร้านสะดวกชื่อที่ได้เงินเดือนน้อยๆ ชนชั้นแรงงานอย่าไปยอมมันครับ ถ้าไม่มีพวกเรา ธุรกิจของพวกชนชั้นนายทุนมันก็ดำเนินไปไม่ได้ พวกมันไม่เคยเห็นค่าความสำคัญของเรา กดขี่ขูดรีดแรงงานเราไปตั้งมากมาย แต่ให้เงินเดือนเล็กน้อย มันไม่แฟร์ครับ

ปล.อันนี้กูจริงจังนะ”

“งั้นก็ทนๆอยู่ไป55555555555555555 นายทุนนายจ้างรวยเอาๆ คนทำงานก็ทำงานงกๆเงินเดือนขึ้นไม่ทันเงินเข้อไป55555555555555

ประเทศไทยจงเจริญครับ”

ซึ่งประเด็นนี้ถูกหยิบมาพูดถึงในทวิตเตอร์เป็นจำนวนมาก งานนี้ไม่รู้ว่าดราม่านี้จะจบลงอย่างไร หากมีอะไรคืบหน้าแอดจะรายงานให้ทาบต่อไปค่ะ

 

 

ต่อมาคิวเทออกมาระบายความในใจ เล่าว่า ย้อนกลับไปเมื่อเดือนธันวาคม ทีมงาน 4 คน ซึ่งมี ตัดต่อ เลขาฯ ตากล้อง เรียก ‘คิวเท’ มาพูดคุยด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ซึ่งตอนแรกเขายังคิดว่าถูกแกล้งอัดคลิปเพื่อทำคอนเทนต์ การพูดคุยคือเขาถูกรุมด่าหยาบคาย ทีมงานขู่จะลาออก ถ้าไม่ขึ้นเงินเดือนและไม่ให้วันหยุดเพิ่ม ‘คิวเท’ ได้บอกขอโทษและร้องไห้ เขารู้สึกเสียใจมากที่เขาเป็นคนไม่ดีขนาดนั้น สุดท้ายเขาก็ได้รับรู้ว่าเป็นแผนรุมจวก ว่าร้ายเขา

 

 

‘คิวเท’ ยังเล่าอีกว่า สำหรับทีมงาน คนตัดต่อคนนี้ เขาให้เงินเดือนถึง 30,000 บาท ซึ่งมากกว่าที่อื่น ๆ แน่นอน เพราะคนตัดคนนี้จบแค่ ม.6 อายุ 19 ปี ไม่เคยมีประสบการณ์ที่ไหนมาก่อน เริ่มต้นจากทำอะไรไม่เป็นเลย แต่เขาก็ให้โอกาสเพราะเห็นความตั้งใจ

ยังไม่จบ เมื่อเขาพบว่า 1 ในทีมงานเป็นโจร ขโมยของแบรนด์เนมไปขายในเว็บ รวมมูลค่ากว่าแสนบาท ในระยะเวลา 3 ปี ซึ่งที่ผ่านมาเสื้อผ้า เงิน ของใช้ของเขาก็หายเป็นระยะ ๆ แต่เขาไม่เคยคิดไม่เคยสงสัยเลยว่าทีมงานของเขานั่นแหละที่เป็นคนทำ เพราะรักไว้ใจทุกคนมาก

เรื่องที่เขารู้สึกแย่มาก ๆ ทีมงานเอาเขาไปนินทาว่าร้าย ใส่ร้าย สร้างเรื่องในคนรอบตัวเกลียด ‘คิวเท’

ส่วนเลขาฯ ได้นำข้อมูลในบริษัทไปแชร์ต่อ ‘คิวเท’ ย้อนเล่าประวัติ เลขาฯ รายนี้เป็นเด็กจบใหม่ ไม่มีประสบการณ์มาก่อน ตอนมาสมัคร ‘คิวเท’ เห็นในความจริงใจและคิดว่าถ้าเขาอยากทำ ทุ่มเท ก็จะทำได้ดีเองเลยให้โอกาส

‘คิวเท’ ยืนยันว่า เรื่องสวัสดิการเขาทุ่มไม่อั้น เพราะอยากให้งานออกมาดีรักเหมือนครอบครัว ค่าเดินทาง ค่าอาหาร ของว่าง บุฟเฟต์ให้เบิกทั้งหมด บางเดือนค่าอาหารหลักแสนก็มี โบนัสเต็มที่ไม่เคยหักถึงแม้จะมีงานพลาดก็ตาม

คิวเทโอปป้า ยังได้ชี้แจงว่ามี 1 ใน 3 ทีมงานสำนึกผิดขอโทษ และเจ้าตัวก็ได้ให้อภัย แต่เขายังยืนยันแจ้งความทีมงานที่ขโมยของ และหมิ่นประมาทแน่นอน

สุดท้ายเขารู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ครั้งนี้ แต่ก็ยังจะสู้ทำช่องที่เขารักต่อไป

 
 
คิวเท
 
 
 

สำหรับความคืบหน้า เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 16 มี.ค.65 ที่ กองปราบปราม พหลโยธิน น.ส.ชาริณี หรือ น้ำหวาน เลขาฯ และ นายศาสตราวุฒิ อดีตทีมงานตัดต่อของ “คิวเท โอปป้า” เดินทางเข้าพบนายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความ เพื่อขอคำปรึกษาเกี่ยวกับกรณีดราม่าที่เกิดขึ้น

 

 

 

 

 

ทนายไพศาล กล่าวว่า ตลอดช่วงเวลาที่ถามข้อมูลทั้งคู่มีอาการเสียใจ พูดไปร้องไห้ไป ส่วนตัวเชื่อว่า ทั้งหมดอยู่กันแบบครอบครัว รักกัน แต่มีเรื่องที่ไม่เข้าใจกัน เปรียบเทียบให้เห็นภาพคือ เหมือนพ่อ มีลูก 4 คน ซึ่งมีเรื่องที่ทำให้ทั้ง 4 คน น้อยใจพ่อ ตัดสินใจออกจากบ้านกัน ยืนยันทั้งหมดไม่ได้มีการพูดคุยกันมาก่อนเรื่องการลาออก

 

ส่วนประเด็นในโซเชียลมีการแสดงความคิดเห็นกันเกินจากความเป็นจริง ซึ่งอยากหาโอกาสให้ทั้ง 2 ฝ่าย ปรับความเข้าใจกัน ส่วนตัวเชื่อว่าหากพูดคุยกัน จะทำให้กลับมารักกันมากกว่าเดิม เนื่องจากกระบวนการทางกฎหมาย ไม่มีเรื่องอะไรน่ากังวล

ส่วนเรื่องคนที่ขโมยของ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่ต้องดำเนินการตามคดีของกฎหมาย เราไม่ยุ่งเกี่ยวอยู่แล้ว ทั้งนี้ ตนและครอบครัวเป็นแฟนคลับของคิวเท เข้าใจความรู้สึกดี จึงอยากจะให้ทั้งหมดได้เคลียร์ใจกันในเร็วๆนี้

 

 

ด้าน น.ส. ชาริณี กล่าวว่า หลังเกิดเรื่องตนยังไม่ได้ติดต่อไปพูดคุยกับคิวเท ยอมรับว่าไม่กล้าคุย และไม่รู้ว่าคิวเทจะคิดยังไง ส่วนตัวทำงานกับคิวเทมานาน รักคิวเทมาก รู้ว่าคิวเทชอบหรือไม่ชอบอะไร ตนไม่ได้โกรธ อยากปรับความเข้าใจกัน แต่ขอให้ทนายเป็นตัวกลาง ส่วนจะกลับไปทำงานร่วมกันอีกหรือไม่นั้น ทุกคนเคารพการตัดสินใจของคิวเท แต่ตนยินดีและอยากกลับไปร่วมงานด้วย ส่วนประเด็นที่มีการกระแสข่าวออกมาว่ามีคนขโมยของออกไปด้วย ยืนยันว่าทั้งคู่ไม่รู้เห็นเรื่องนี้ จนมาทราบจากที่คิวเทโพสต์ลงในเฟซบุ๊กและยูทูบ ส่วนเรื่องที่บอกว่า นำเรื่องส่วนตัวไปว่าร้าย นินทานั้น เป็นเรื่องเข้าใจผิดแล้วยังไม่ได้เคลียร์ใจกัน

 

ด้านนายศาสตราวุฒิ กล่าวว่า ตนขอบคุณคิวเทที่สอนงานมาตั้งแต่แรก คอยดูแล คอยให้ความช่วยเหลือทุกอย่าง ตนซาบซึ้งใจมาตลอด โดยก่อนหน้านี้มีเรื่องให้เข้าใจผิดกัน เป็นเรื่องของความรู้สึกที่เราไม่เข้าใจกัน ตนก็อยากจะมีโอกาสได้อธิบายให้คิวเทได้ทราบ ไม่ได้มีเจตนาร้ายเลย

 

ส่วนกรณีเรื่องเงินเดือน ยืนยันว่าทั้ง 4 คนไม่ใช่คนโพสต์ แต่มีบุคคลอื่นเข้ามาแสดงความคิดเห็น ทำให้เกิดการเข้าใจผิดกัน จนเกินเลยไปไกล ส่วนตัวรู้สึกผิด กับสิ่งที่เกิดขึ้น ย้ำว่ารักครอบครัวนี้มากและเสียใจไม่ต่างกัน

 

 

 

ขอบคุณ ข่าวสด/ทวิตเตอร์