ระบบการคิดค่าไฟของการไฟฟ้านั้นคิดแบบ อัตราก้าวหน้า มีการกำหนดยังไงมาลองดูกัน

  • ช่วงที่เกิดการระบาดของโควิด19 ทำให้ผู้คนทั้งประเทศต้องอาศัยอยู่ในบ้านมากขึ้น เป็นผลให้ปริมาณการใช้ไฟฟ้าของแต่ละบ้านเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ทีนี้พอสิ้นเดือนบิลเรียกเก็บค่าไฟมาถึง หลายคนเห็นตัวเลขแล้วถึงกับช็อคว่าทำไมถึงแพงแบบนี้

คำตอบของสาเหตุนี้ก็คือ ระบบการคิดค่าไฟของการไฟฟ้านั้นคิดแบบ “อัตราก้าวหน้า” หมายถึงการไฟฟ้ามีการกำหนดขั้นบันไดการใช้ไฟฟ้าเอาไว้ ยิ่งบ้านไหนใช้เยอะ ก็จะต้องจ่ายค่าไฟเยอะขึ้น ประกอบกับช่วงนี้เข้าสู่หน้าร้อน ทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทที่ต้องใช้ระบบทำความเย็นต้องทำงานหนักขึ้น

ซึ่งรายละเอียดการคิดค่าไฟตามอัตราก้าวหน้า อ้างอิงจากการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) คือ
– 35 หน่วยแรก เหมารวมทั้งสิ้นเป็นจำนวนเงิน 85.21 บาท
– 115 หน่วยต่อไป หน่วยละ 1.1236 บาท
– 250 หน่วยต่อไป หน่วยละ 2.1329 บาท
– ส่วนที่เกินกว่า 400 หน่วย หน่วยละ 2.4226บาท

ถ้าบ้านไหนมีเครื่องใช้ไฟฟ้าเยอะ โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องใช้ใช้พลังงานสูงอย่าง แอร์ คอนดิชั่น , เครื่องฟอกอากาศ, เครื่องทำน้ำอุ่น , เครื่องซักผ้า และ เตารีด พอสมาชิกในบ้านกลับมาใช้เวลาอยู่ในบ้านมากขึ้นยิ่งทำให้ค่าไฟแพงยิ่งขึ้นนั่นเอง

ตัวอย่างวิธี คำนวณค่าไฟฟ้า ด้วยตนเอง

ในการคำนวณค่าไฟฟ้า เราต้องรู้อัตราค่าไฟฟ้าของเครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละชนิดนั้น โดยสังเกตได้จากกำลังไฟฟ้าที่มีหน่วยเป็นวัตต์ร ยิ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีจำนวนวัตต์มาก ก็หมายความว่าจะใช้ไฟฟ้ามากขึ้นไปด้วย

ดังนั้นก่อนที่จะทำการคำนวนค่าใช้ไฟฟ้า จะต้องสำรวจว่าภายในที่อยู่อาศัยนั้นมีเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทไหนบ้าง และเปิดใช้งานประมาณเดือนละกี่ชั่วโมง จากนั้นนำมาคำนวณค่าใช้ไฟฟ้าด้วยสูตรดังต่อไปนี้ กำลังไฟฟ้า (วัตต์ ) x จำนวนเครื่องใช้ไฟฟ้า ÷ 1000 x จำนวนชั่วโมงที่ใช้ใน 1 วัน = จำนวนหน่วยต่อวัน (ยูนิต)

ยกตัวอย่างการ คำนวณค่าไฟฟ้า ของบ้านพัก A ซึ่งมีเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมด 9 ชนิดดังนี้
หลอดไฟขนาด 50 วัตต์จำนวน 10 ดวงเปิดใช้งานวันละประมาณ 6 ชั่วโมง วิธีคำนวณ กำลังไฟฟ้า (วัตต์) ของหลอดไฟ คือ 50 วัตต์ x มีจำนวนทั้งหมด 10 ดวง ÷ 1000 x 6 ชม. = 3 หน่วย/วัน (เดือนละ 90 หน่วย)

ไมโครเวฟขนาด 600 วัตต์จำนวนหนึ่งเครื่อง เปิดใช้งานวันละ 30 นาที วิธีคำนวณ กำลังไฟฟ้า (วัตต์) คือ 600 วัตต์ x มีจำนวนทั้งหมด 1 เครื่อง ÷ 1000 x 0.5 ชม. = 0.3 หน่วย/วัน (เดือนละ 9 หน่วย)

ตู้เย็นขนาด 125 วัตต์หนึ่งตู้เปิดใช้งานตลอด 24 ชั่วโมง วิธีคำนวณ กำลังไฟฟ้า (วัตต์) คือ 125 วัตต์ x มีจำนวนทั้งหมด 1 ตู้ ÷ 1000 x 24 ชม. = 3 หน่วย/วัน (เดือนละ 90 หน่วย)

แอร์ขนาด 2000 วัตต์จำนวน 2 เครื่องเปิดใช้งานวันละ 6 ชั่วโมง วิธีคำนวณ กำลังไฟฟ้า (วัตต์) คือ 2000 วัตต์ x มีจำนวนทั้งหมด 2 เครื่อง ÷ 1000 x 6 ชม. = 24 หน่วย/วัน (เดือนละ 720 หน่วย)

เตาอบ ขนาด 850 วัตต์จํานวน 1 เครื่อง เปิดวันละ 30 นาที วิธีคำนวณ กำลังไฟฟ้า (วัตต์) คือ 850 วัตต์ x มีจำนวนทั้งหมด 1 เครื่อง ÷ 1000 x 0.5 ชม. = 0.425 หน่วย/วัน (เดือนละ 12.75 หน่วย)

เครื่องชงกาแฟขนาดเล็ก 100 วัตต์ จํานวน 1 เครื่อง เปิด 1 ชั่วโมง วิธีคำนวณ กำลังไฟฟ้า (วัตต์) คือ 100 วัตต์ x มีจำนวนทั้งหมด 1 เครื่อง ÷ 1000 x 1 ชม. = 0.1 หน่วย/วัน (เดือนละ 3 หน่วย)

ทีวี ขนาด 300 วัตต์ จํานวน 1 เครื่อง เปิดใช้งานวันละ 5 ชั่วโมง วิธีคำนวณ กำลังไฟฟ้า (วัตต์) คือ 300 วัตต์ x มีจำนวนทั้งหมด 1 เครื่อง ÷ 1000 x 5 ชม. = 1.5 หน่วย/วัน (เดือนละ 45 หน่วย)

สรุปได้ว่าบ้านพัก A จะใช้ไฟฟ้าทั้งหมด 969.75 หน่วยต่อเดือน

วิธีการคำนวณค่าไฟฟ้า บ้านพัก A นั้นใช้ค่าไฟฟ้าไปประมาณ 969.75 หน่วยต่อเดือน ดังนั้นจะสามารถคำนวณค่าไฟฟ้า ที่อ้างอิงจาก การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ได้ดังนี้
35 หน่วยแรก เหมารวมทั้งสิ้นเป็นจำนวนเงิน 85.21 บาท
115 หน่วยต่อไป หน่วยละ 1.1236 บาท = 115 x 1.1236 บาท รวมทั้งสิ้น 129.21 บาท
250 หน่วยต่อไป หน่วยละ 2.1329 บาท = 250 x 2.1329 บาท รวมทั้งสิ้น 533.23 บาท
ส่วนที่เกินกว่า 400 หน่วย หน่วยละ 2.4226บาท = (969.75 – 400) = 569.75 x 2.4226บาท) 1,380.28 บาท
รวมเป็นเงิน (85.21 + 129.21 + 533.23 + 1,380.28) = 2,127.93 บาท

ทั้งนี้รายละเอียดตามตัวอย่างเป็นวิธีการคำนวณค่าไฟฟ้าในเบื้องต้น ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และค่าใช้จ่ายที่การไฟฟ้านครหลวงเรียกเก็บ นอกจากนี้ราคาค่าไฟฟ้าต่อหน่วยนั้น อาจมีเปลี่ยนแปลงได้