ผลการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ประจำคืนวันพุธ ที่ 14 ธันวาคม 2565 รอบ 4 ทีมสุดท้าย ระหว่าง ฝรั่งเศส พบ โมร็อกโก
![วิเคราะห์] ฟุตบอลโลก 2018 คาดคนไทย 10 ล้านคนเฝ้าติดตาม อานิสงส์สู่ตลาดสินค้า 6,685 ล้านบาท | Brand Inside](https://brandinside.asia/wp-content/uploads/2018/06/world-cup-2018-222.jpg)
ฝรั่งเศส 2-0 โมร็อกโก
GOAL!! เริ่มครึ่งแรกนาทีที่ 4 ฝรั่งเศสได้ขึ้นนำก่อนจากจังหวะที่ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ได้ยิงในเขตโทษ แต่ไปติดกองหลัง โมร็อกโก แต่บอลกระดอนไปเข้าทาง เตโอ แอร์กนองเดซ ก่อนจะตวัดยิงเร็วทันทีส่งบอลผ่านตัว ยาสซีน โบโนเข้าตุงตาข่ายไม่เหลือซาก ทัพ “ตราไก่” ขึ้นนำ 1-0
นาทีที่ 10 โมร็อกโก ได้ทำเกมบุกบ้างจากจังหวะที่ อัซเซดีน ฮูนาฮี ได้จังหวะส่องบอลไกลนอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงจะมุดเข้าประตูอยู่แล้ว แต่ อูโก้ ยอริส ยังกระโดดพุ่งปัดบอลทิ้งได้อย่างเฉียบขาด
นาทีที่ 16 ทัพ “ตราไก่” น่าได้ประตูที่ 2 อย่างสุดๆ จากจังหวะที่ โรแม็ง ซาอิสส์ จับจังหวะบอลพลาดทำให้ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ วิ่งมาโฉบบอล และหลุดเดี่ยวไปดวลกับ ยาสซีน โบโน ก่อนจะได้กดบอลเต็มข้อบอลพุ่งไปชนเสาออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 35 ฝรั่งเศส พลาดได้ลูกสองอีกครั้ง จากจังหวะที่ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ได้บอลก่อนกระชากเข้าเขตโทษ ก่อนตัดสินใจยิงทันที บอลผ่านมือ ยาสซีน โบโน ไปแล้วแต่ยังไปติด กองหลังโมร็อกโก ที่เตะสกัดทิ้งได้ทัน แต่บอลไปเข้าทางผู้เล่นฝรั่งเศส ก่อนส่งให้ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ได้ยิ่งโล่งๆ แต่ทำบอลออกหลังไปอย่างเหลือเชื่อ
นาทีที่ 43 โมร็อกโก เกือบได้ประตูตีเสมอจาก ลูกเตะมุมจากจังหวะที่ ฮาคิม ซิเย็ค เปิดบอลเข้ามาในเขตโทษ ก่อนบอลขลุกขลิกไปเข้าทาง จาวาด เอล ยามิค ได้จักรยานอากาศเต็มข้อบอลจะมุดเสาเข้าประตูอยู่แล้ว แต่ อูโก้ ยอริส ยังสกัดบอลออกไปได้อย่างสุดยอด
หมดเวลาครึ่งแรก ทีมชาติฝรั่งเศส ขึ้นนำ ทีมชาติโมร็อกโก 1-0
ครึ่งนาทีที่ 66 โมร็อกโกขึงเกมบุกอย่างหยัก และเป็นจังหวะที่ เซลิม อมาลลาห์ เปิดบอลจากทางริมเส้น เข้ามาในเขตโทษ และเป็น อับเดอร์ราซัก ฮามดาลลาห์ ได้วิ่งมาโฉบเพื่อทำประตู แต่ทาง อูโก้ ยอริส ยังอ่านเกมได้ดี กระโดดออกมาปัดบอลทิ้งไปได้ทันควัน
นาทีที่ 70 ฝรั่งเศส ได้ฟรีคิกนอกกรอบเขตโทษ และเป็น อองตวน กรีซมันน์ เปิดบอลเข้ามาในเขตโทษ ก่อนบอลจะเข้าหัว มาร์คัส ตูราม ได้โขกเต็มๆแต่บอลไม่ตรงกรอบ ออกหลังไปอย่างได้ลุ้น
GOAL!! นาทีที่ 78 ทัพ “ตราไก่” หนีห่างเป็นสองประตูจนได้ จากจังหวะที่ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ลากหลบกองหลัง โมร็อกโก ก่อนจะยิงไปติดกองหลังคู่แข่ง และบอลเป็นใจเข้าทาง โคโล มูอานี่ ก่อนจะได้ซัดบอลเต็มๆ เป็นประตูทันที ฝรั่งเศสนำห่าง 2-0
นาทีที่ 90+4 โมร็อกโก โหมบุกอย่างหนัก และเป็นจังหวะที่ อัซเซดีน ฮูนาฮี หวดบอลเน้นในเขตโทษบอลจะเข้าประตูอยู่แล้ว แต่ ฌูลส์ กุนเด้ ยังยืนถูกที่ถูกเวลายังยับยั้งลูกยิงไว้ได้ และเตะทิ้งอย่างไว
จบเกม ฝรั่งเศส เอาชนะ โมร็อกโก ไปได้ 2-0 ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปพบกับ อาร์เจนติน่า โดยเกมนัดชิงฯ จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม เวลา 22.00 น. ที่ลูเซล ไอคอนิค สเตเดี้ยม ส่วน โมร็อกโก ต้องโคจรไปเจอ โครเอเชีย ไปต้องไปชิงอันดับ 3 ในวันเสาร์ที่ 17 ธันวาคม ที่คาลิฟา อินเตอร์เนชันแนล สเตเดี้ยม
ขอบคุณ TrueID
