จุดแตกหักระหว่าง ติ๋ม ทีวีพูล กับ ทิดสมปอง

ติ๋ม ทีวีพูล ตั้งโต๊ะแถลงข่าวประเด็น ทิดสมปอง นครไธสง ได้ถอนตัวจากรายการโทรทัศน์ทั้งที่ยังติดสัญญากับทีวีพูลกรุ๊ป เป็นเวลาอีก 2 ปี อยู่ดีๆ มาเท พร้อมแฉขนของออกจากบ้านเกลี้ยง ทั้งที่ช่วยเหลือปรับโครงสร้างหนี้สิน ซื้อเสื้อผ้าเป็นแสน รีโนเวตบ้านให้อยู่เกือบล้าน แถมป้อนงานให้กลับทำแบบนี้ ประกาศ ตระกูลนครไธสง อย่าโผล่มาที่บ้านอีก ด้านทิดสมปอง ออกมาเคลียร์ชัดดราม่า เจ๊ติ๋ม ทีวีพูล โต้ข้อครหา ไวน์ เสื้อผ้าหรู และคนเทาๆ

 

 

 

หลังจากช่วงเช้าวันนี้ 4 กุมภาพันธ์ 2565 สมปอง นครไธสง ได้ไลฟ์ในเพจ สมปอง นครไธสง แจ้งยุติการทำงานในรายการ 3 รายการคือ ซิทคอม​มหาพาสนุก​ รายการถึงไหนถึงกัน​ และ​รายการโทรติดทิดตอบ​ โดยบอกว่า

 

 

‘สวัสดีครับ​ ผม​สมปอง​ นครไธสง​ ครับ​ วันนี้ผมจะมาชี้แจงแถลงให้ทุกท่านได้ทราบว่า​ ซิทคอม​มหาพาสนุก​ รายการถึงไหนถึงกัน​ และ​รายการโทรติดทิดตอบ​ 3​ รายการนี้​ ผมไม่ได้มีส่วนร่วมแล้วนะครับ​ อย่างไรก็ฝากทุกท่านติดตามทั้ง​ 3​ รายการนี้​ เพราะถึงไม่มีผม ก็ยังมอบความสุข​ ความสนุก​ และข้อคิด​ ให้กับทุกท่านได้​ ผมเอง​ก็ขอขอบคุณที่ทุกท่านเมตตา​ ติดตามผมมาตลอดนะครับ​ ก็ขอให้ทุกท่านมีความสุข​ วันนี้มีเรื่องแถลงชี้แจง​ แต่เพียงเท่านี้ครับ​ ขอบคุณครับ​”

 

 

ล่าสุด ติ๋ม-พันธุ์ทิพา ศกุณต์ไชย หรือ ติ๋ม ทีวีพูล พร้อมด้วย เต้-กันต์พงษ์ ศกุณต์ไชย ลูกชาย ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวถึงประเด็นการประกาศลาออกจากรายการของสมปอง งานนี้ ติ๋ม ทีวีพูล พร้อมด้วยลูกชาย ก็ได้ตั้งโต๊ะแถลงชี้แจงถึงเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นทันที โดยสรุปเป็นข้อๆ ดังนี้

 

1. ติ๋ม ทีวีพูล และ ทิดสมปอง ตกลงทำรายการร่วมกัน 3 รายการ ก็คือ ถึงไหนถึงกัน ทางช่อง 5, รายการมาหาพาสนุก ทางช่อง 9 และรายการ โทรติดทิดตอบ ทางทีวีพูลออนไลน์ 

 

2. จากนั้นเมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2565 ที่ผ่านมา สมปอง นครไธสง หรือ ทิดสมปอง ได้โพสต์คลิปเพื่อแจ้งให้แฟนคลับทราบว่า รายการ มาหาพาสนุก, รายการ ถึงไหนถึงกัน และโทรติดทิดตอบ 3 รายการนี้ ตนเองไม่ได้มีส่วนร่วมแล้ว แต่ยังไงก็ฝากแฟนๆ ติดตาม 3 รายการนี้ เพราะถึงยังไงไม่มีตนเองใน 3 รายการนี้ ทางรายการก็ยังมอบความสนุกให้กับแฟนๆ ได้เหมือนเดิม และขอขอบคุณทุกคนที่ติดตามและเมตตามาตลอด

 

3. หลังจากที่ ทิดสมปอง ได้แถลงข่าวดังกล่าวไป จากนั้น ติ๋ม ทีวีพูล พร้อมด้วยลูกชาย ก็ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวถึงเรื่องที่เกิดขึ้น โดยเผยว่า เรื่องเริ่มต้นจากการที่ ทิดสมปอง เป็นคนเดินเข้ามาหาเอง โดยที่ตนเองไม่ได้ไขว่คว้าหรือเรียกเข้ามา เหมือนเป็นลูกนกที่ไม่มีที่พึ่ง ในฐานะที่ตนเองเป็นสายบุญแล้วและไม่ได้หวังอะไรไว้ตั้งแต่แรก คิดแค่ว่าที่บ้านมีห้องเยอะ และร้างมานาน ก็สามารถให้เค้ามาพักได้ แต่สิ่งที่หวังไว้มากๆ คือ ทิดสมปอง เป็นคนพูดธรรมะแล้วสนุก เลยอยากได้มาร่วมงานด้วย อันนี้เป็นความหวังส่วนตัวของตนเอง 

 

4. มีคนรู้จักกับ ติ๋ม รู้สึกเป็นห่วงมาก เพราะกลัวจะถูกหลอก แต่ตนเองบอกไม่เป็นไร สิ่งที่เสียไปก็จะเป็นเงินค่ารีโนเวตบ้านใหม่ที่หมดไปเกือบล้าน เพราะอีกฝ่ายอยากได้บ้านหลังเล็กข้างสำนักงาน เอามาใช้เป็นสำนักงานสไตล์ลอฟต์ แต่ยังทำไม่เสร็จ

 

5. ทิดสมปอง มาพร้อมกับธุรกิจในหัวที่มีเยอะมาก ซึ่งตนเองก็บอกว่าให้เอาทีละเรื่อง อย่าไปทำทั้งหมด เพราะเราเป็นพระพูดธรรมะอย่างเดียว ยังไม่รู้เรื่องพวกนี้ กลัวจะไม่ทันคนอื่น ซึ่งก็ตนบอกเขาว่าค่อยๆ ทำ รายได้รายจ่ายพอกันหรือไม่ และเค้ามีความฝันเยอะมาก 

 

6. ทิดสมปอง บอกกับตนว่า ไม่มีเสื้อผ้า ตนเองเลยจัดการให้ทั้งหมด ซึ่งเค้าก็เลือกเสื้อผ้ามารวมเป็นเงินเกือบแสนบาท แต่ตนเองไม่ติดใจเรื่องเงินมากเท่าไร ติดใจแต่เรื่องใจ เพราะเสียความรู้สึก เสียใจกับเรื่องนี้มาก มองว่าเป็นความทะเยอทะยานที่อยากจะรวยเร็วๆ 

 

7. ติ๋ม ทีวีพูล ได้พูดต่อว่า ทิดสมปอง นั้นมาพร้อมหนี้ เพราะไปลงทุนทำสวนยางพารากับครอบครัว กู้หนี้นอกระบบมา หนี้ทั้งหมด 10.9 ล้านบาท ไปซื้อที่ดินส.ป.ก.เกือบ 300 ไร่ มันไม่ใช่ง่าย ต้องใช้ความพยายามสูง สุดท้ายทำไม่ได้ จึงพยายามขายก็ขายไม่ได้หนี้เลยพอก เจอดอกเบี้ยเดือนละ 3 แสน และยังเป็นลูกศิษย์หลวงพ่ออลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ลูกศิษย์หลวงพ่ออลงกตเมตตา เลยช่วยเงินให้มาปิดหนี้ไปส่วนหนึ่ง ซึ่งอีกฝ่ายก็ส่งให้บ้าง ไม่ให้บ้าง พอมาถึงตน ก็สงสารมองเค้าเหมือนลูก แต่เรื่องเงินเป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับเค้า ตนทำทุกอย่างไม่บกพร่องเหมือนเป็นแม่ ทอดไข่เจียวให้กินเวลากลับมาตอนดึก หาคนมานวดให้ถ้าเค้ารู้สึกเหนื่อยมาก แต่ไม่เป็นไร

 

8. ติ๋มบอกว่า คิดว่าจุดแตกหักเป็นเรื่องเงิน เพราะเงินเป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับเค้า เค้าอยากได้อะไร ก็จะบอก ให้คำแนะนำทุกอย่าง บางทีเค้าก็ไม่อยากฟัง เหมือนเด็กทั่วไป อย่างเวลาเค้าว่ายน้ำในตอนเช้า ก็จะเปิดเพลงลูกทุ่งเพื่อกลบเสียงที่ตนเองคุยด้วย ตอนนี้อโหสิให้ทั้งหมด ไม่ติดใจอะไรแล้ว

 

9. วันที่ทิดสมปองขนของออกจากบ้านไป ตอนแรกช็อกมาก เค้าไม่ได้มาลา ให้คนมาเก็บของไปจากห้องนอน เหลือทิ้งไว้แค่รูปตนเองเท่านั้น 

 

10. เมื่อถามว่าได้ทะเลาะกันมั้ย ติ๋ม บอกว่า ไม่ได้ทะเลาะกัน แต่เคยพูดกับอีกฝ่ายเรื่องการคบคน เพราะเค้าคิดอยากจะรวยมาก ซึ่งตนเองก็สอนและบอกตลอดเรื่องการคบคน แต่เค้าไม่ฟัง มองเรื่องเงินเป็นใหญ่ 

 

11. ติ๋มตั้งใจอยากจะช่วยปลดหนี้ 10.9 ล้าน จึงได้บอกไปว่า จะทำให้ปลดให้ได้ภายใน 1 ปี ไม่ให้หลุดเรื่องธรรมะ จึงได้เรียกประชุมทีมงาน พร้อมกับวางแผนงาน และได้ให้ลูกชายทำรายการขึ้นมา 3 รายการ คือ โทรติดทิดตอบ, มาหาพาสนุก และรายการ ถึงไหนถึงกัน ไลฟ์สดเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ทำอะไรให้กับสังคมไม่ใช่แค่การรีวิว

 

12. โดยให้ค่าตัวแก่ ทิดสมปอง แพงกว่าดารา ให้คิวละ 50,000 – 100,000 บาท ทั้งหมดได้เงินเดือน เดือนละ 250,000 เซ็นสัญญา 2 ปี วางแผนให้หมดแล้ว และได้นำเงิน 1 ล้านบาทให้ลูกชายไปจ่ายให้กับลูกศิษย์ของหลวงพ่ออลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่ทิดสมปองได้ติดหนี้ไว้ ตนเองก็เคลียร์ให้ไปแล้ว 

 

13. และยังได้ไปหางาน หาโฆษณามาให้ เพื่อจะได้เงินค่าตัว และยังหาคลินิกศัลยกรรมมาให้ด้วย ซึ่งดีลกันเรียบร้อยแล้ว แต่ปรากฏว่าอีกฝ่ายไปไลฟ์สดทำศัลยกรรมกับคลินิกอีกเจ้าแล้ว ซึ่งก็ไม่รู้จะทำยังไง

 

14. การกระทำทั้งหมดของอีกฝ่าย ส่งผลกระทบต่องานทั้งหมด รายการที่วางแผนไว้อย่างมาก ส่วนสัญญาที่คุยกันไว้ ตกลงไว้ที่ 2 ปี ก็จะให้ทางกฎหมายดูอีกทีว่าเสียอะไรไปบ้าง และเค้าจะเคลียร์ยังไง ซึ่งที่ผ่านมาอีกฝ่ายพูดแต่เรื่องเงินๆ 

 

15. ติ๋มบอกว่าตอนนี้ตนเองว่างเปล่าหมดแล้ว อโหสิกรรมให้ทุกอย่าง ไม่ต้องมาเจอกัน ต่างคนต่างไป อวยพรให้โชคดี เค้าฝันอยากจะเป็นนักร้องลูกทุ่งที่ยิ่งใหญ่ แต่ตนเองอยากให้เป็นนักเทศน์ที่ดี เรามองสวนทางกัน เค้ามองเรื่องเงิน ส่วนตนเองมองเรื่องภาพ เพื่อที่จะได้กินได้นานและมีคนนับถือกันอยู่ตลอด แต่อีกฝ่ายไม่อยากให้คนไหว้ อยากให้คนมากอดมากกว่า

 

16. ด้านลูกชายของ ติ๋ม ทีวีพูล บอกว่า แม้ว่าในอนาคตจะไม่ได้ร่วมงานกันอีก ก็อยากให้จบกันด้วยดีมากกว่า ถือว่าเค้าเดินออกจากเราไปแล้ว จะไม่มีคำว่า สมปอง นครไธสง ในบ้านนี้อีกต่อไปแล้ว กำลังพยายามไล่ลบชื่อของเค้า เพลงที่เค้าทำก็จะไล่ลบออกให้หมด และตระกูล นครไธสง ก็ไม่ต้องมาบ้านนี้อีกต่อไป.

 

ต่อมาทิดสมปองได้ออกมาเคลียร์ดราม่าปมแตกหัก เจ๊ติ๋ม ทีวีพูล ตอบทุกประเด็นที่สังคมสงสัย ยืนยันยังเป็นสมปองคนเดิม

 

 

 

 

 

ขอบคุณ ไทยรัฐ/ข่าวสด