ตำรวจยิงผิดสกัดรถคัน ญาติลั่นจะเอาเรื่องถึงที่สุด

ตำรวจตรังยิงสกัดรถต้องสงสัย คาดว่าเป็นผู้ก่อเหตุจับภรรยาขัง และใช้ปืนยิงตำรวจที่จังหวัดกระบี่บาดเจ็บ แต่ผลสุดท้าย คนในรถออกมาปฏิเสธว่าไม่ใช่คนร้าย และขอดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

 

 

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบริเวณสี่แยกอันดามัน ตำบลเขากอบ อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ตำรวจได้ยิงสกัดรถยนต์ต้องสงสัยคันหนึ่ง หลังได้รับรายงานว่าเป็นรถของคนร้ายที่ก่อเหตุขังภรรยาไว้ในบ้าน และใช้อาวุธปืนยิงตำรวจ สภ.ห้วยยอด จังหวัดกระบี่ และยิงผู้ใหญ่บ้านอีก 1 คน ได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่จะขับรถยนต์สีขาว ไม่ทราบรุ่นและทะเบียน หลบหนีเข้ามาพื้นที่จังหวัดตรัง พร้อมอาวุธปืนสั้นและปืนยาว

 


โดยขณะที่ตำรวจตั้งจุดสกัด พบรถสีขาวต้องสงสัย ทะเบียนจังหวัดกระบี่ จึงใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงใส่รถยนต์คันดังกล่าวทันที ก่อนจะเข้าไปตรวจสอบภายในรถ มีคนขับคือ นายสุทธิราช หมาดแดหว่า อายุ 38 ปี และคนที่นั่งด้านข้าง คือ นางสาวหนึ่งฤทัย วงศ์ประเสริฐ ภรรยา ได้รับบาดเจ็บถูกยิงต้นขาด้านซ้าย และคนที่นั่งเบาะด้านหลังคือ คือ นางสาวสุดารัตน์ หมาดแดหว่า อายุ 24 ปี เป็นน้องสาวนายสุทธิราช (คนขับรถ)



จากนั้นตำรวจได้คุมตัว นายสุทธิราช และน้องสาว ไปสอบสวนที่ สภ.ห้วยยอด ขณะที่ภรรยานายสุทธิราชที่ได้รับบาดเจ็บ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว



นายสุทธิราช และน้องสาว ที่ถูกตำรวจควบคุมตัวอยู่ในอาการตกใจ และหวาดผวาอย่างมาก พร้อมยืนยันว่าไม่ได้กระทำผิดอะไร และนายสุทธิราช ให้การว่าได้เดินทางออกมาจากอำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ มาที่จังหวัดตรัง เพื่อเตรียมขึ้นรถไฟเดินทางต่อไปอบรมที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยให้ภรรยา น้องสาว นั่งมาด้วยเพื่อที่จะให้ทั้ง 2 คนขับรถกลับบ้าน ตอนแรกเห็นตำรวจตั้งด่าน คิดว่าเกิดอุบัติเหตุบนถนน จึงเปลี่ยนเลนและชะลอรถ แต่จังหวะนั้นตำรวจก็กระหน่ำยิงรถเขาทันที ก่อนที่จะถูกควบคุมตัว



ขณะที่ครอบครัวของนายสุทธิราช ทราบข่าวก็รีบเดินทางมาทันที โดยพ่อของนายสุทธิราช บอกว่า ตำรวจน่าจะเข้าใจผิด และยืนยันว่าลูกชายเป็นคนที่ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรู้สึกเสียใจ และน้อยใจเป็นอย่างมาก มองว่าตำรวจทำเกินกว่าเหตุ และหลังจากนี้จะขอดำเนินคดีให้ถึงที่สุด



ขณะที่ในส่วนของตำรวจ ก็ยังไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลใด ๆ และอยู่ระหว่างสอบสวนผู้เสียหายทั้ง 2 คน ส่วนผู้ก่อเหตุที่แท้จริง ขณะนี้อยู่ระหว่างไล่ล่าตัวมาดำเนินคดี

 

 

ขอบคุณ CH7/ไทยรัฐ