ตำรวจและ อย. บุกทลายโรงงานผลิตสบู่ผิดกฎหมาย

ตำรวจและ อย. ร่วมกันบุกทลายโรงงานผลิตสบู่ผิดกฏหมาย ย่านถนนโกสุมรวมใจ แขวงดอนเมือง พบของกลางหลายรายการ ส่งขายตามตลาดนัด และทางออนไลน์

 

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 18 ม.ค.64 พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน รอง ผบช.น. รรท.ผบก.น.2 ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.รังสรรค์ สอนสิงห์ ผกก.สน.ดอนเมือง พร้อมด้วย พ.ต.ท.อดิเรก ทองแกมแก้ว รอง ผกก.สส.สน.ดอนเมือง พ.ต.ต.วุฒิชัย บุญยู้ สว.สส.สน.ดอนเมือง ร.ต.อ.ภาคิน ดอกไม้ รอง สว.สส.สน.ดอนเมือง เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ดอนเมือง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ อย. นำหมายค้นศาลแขวงดอนเมือง เข้าตรวจสอบอาคารพาณิชย์ เลขที่ 186/99-100 ถนนโกสุมรวมใจ แขวงดอนเมือง เขตดอนเมือง กทม. หลังพบมีการลักลอบเปิดเป็นโรงงานผลิตสบู่ผิดกฎหมาย

 

 

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ สูง 3 ชั้น ปลูกติดกัน 5 คูหา เข้าตรวจสอบพบ นายกฤษณะ หรือบอล วิเศษศิริ อายุ 34 ปี และนายพรรษกร หรือเอช เหล่านุกูล อายุ 24 ปี ซึ่งอยู่ในอาคารดังกล่าว จึงแสดงหมายค้น ก่อนที่ทั้งสองจะพาเจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจค้นภายในห้องเลขที่ 186/99 พบสบู่ที่แพ็กแล้วจำนวนหนึ่ง และเครื่องผสมสบู่จำนวน 1 เครื่อง เครื่องตัดสบู่ 1 เครื่อง เครื่องปั๊มสบู่ 1 เครื่อง กล่องบรรจุสบู่ยี่ห้อหมอปัญญา และหมอยันฮี อีกจำนวนหนึ่ง ส่วนเลขที่ 186/100 ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย ขณะที่บริเวณชั้น 2-3 ของทั้ง 2 คูหา เป็นที่พักอาศัย ด้านหลังอาคารเป็นลักษณะลานจอดรถ พบถังน้ำมันปาล์มเปล่า ขนาด 200 ลิตร จำนวน 8 ถัง เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลาง

 

 

นายกฤษณะ รับสารภาพว่า เป็นผู้ดูแลการผลิตสบู่ได้ 3-4 เดือน โดยจะนำสบู่บางส่วนที่ผลิตได้ออกขายตามตลาด หรือตามออเดอร์ที่ลูกค้าสั่งมา แต่จะเน้นขายทางสื่อออนไลน์ส่วนใหญ่ โดยจะขายในราคาก้อนละ 6 บาท

 

 

พล.ต.ต.พีระพงศ์ เปิดเผยว่า การเข้าตรวจค้นครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับข้อมูลว่าอาคารดังกล่าวมีการลักลอบผลิตสบู่ที่ผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่จึงทำการสืบสวนหาข่าวจนทราบว่าอาคารนี้มีการลักลอบผลิตสบู่จริง โดยสภาพสถานที่ผลิตไม่น่าจะเป็นไปตามมาตรฐานเรื่องความสะอาด และยังมีการขายทางออนไลน์ จึงขอหมายค้นเข้าตรวจสอบร่วมกับเจ้าหน้าที่ อย. ผลการตรวจค้นก็พบสบู่และเครื่องมือจำนวนหนึ่ง จึงตรวจยึดไว้ ทั้งนี้ ขอฝากถึงพี่น้องประชาชนว่า ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่เราใช้ในชีวิตประจำวันนั้นต้องมีมาตรฐาน หากพบการผลิตที่ไม่ได้มาตรฐาน ลักษณะปิดบังอำพรางต้องสงสัยว่าผิดกฎหมาย สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ โดยทางตำรวจจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการตรวจสอบต่อไป

 

 

รอง ผบช.น.กล่าวว่า เบื้องต้นแจ้งข้อหานายกฤษณะกับนายพรรษกร ว่า ผลิตเครื่องสำอางที่ไม่ได้จดแจ้ง ตามมาตรา 14 วรรคหนึ่ง ผลิตเครื่องสำอางที่ฉลากแสดงข้อความทำให้เข้าใจผิดในสาระสำคัญของเครื่องสำอาง ตามมาตรา 22 วรรคสอง (1), ผลิตเครื่องสำอางที่ฉลากแสดงข้อความอันจำเป็นไม่ครบถ้วนตามมาตรา 22 วรรคสอง (3) และผลิตเครื่องสำอางปลอมอันฝ่าฝืนมาตรา 27(2) ประกอบมาตรา 29(4) เครื่องสำอางที่แสดงว่าเป็นเครื่องสำอางที่ได้จดแจ้งไว้ ซึ่งไม่ใช่ความจริง รวม 4 ข้อหา ส่งดำเนินคดี สน.ดอนเมือง ตามกฎหมายต่อไป.

 

 

 

ขอบคุณ ไทยรัฐ