นักศึกษานครปฐมถูกปาระเบิดใส่หลังกลับจากม็อบหน้าเรือนจำ

เมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2563  มีสมาชิกเฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ภาพ นักศึกษาสาวและกลุ่มอาชีวะ ถูกกลุ่มวัยรุ่นลอบปาระเบิดที่จังหวัดนครปฐมจนได้รับบาดเจ็บ 2 ราย โดยข้อความได้ระบุไว้ว่า เมื่อช่วงเช้ามืด เวลาประมาณ 03:00 น. ของวันที่ 25 ตุลาคม ที่ผ่านมา น้องนักศึกษาได้มาม็อบ ร่วมชุมนุมที่ หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และกลับบ้านที่นครปฐม โดยขับขี่ จยย. พร้อมการ์ดอาชีวะที่อยู่นครปฐม ในช่วงเวลาดังกล่าวได้เจอวัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง ขี่รถจยย. มาโดยที่อีกฝ่ายมีปืนด้วย จากนั้นกลุ่มวัยรุ่นได้ ปาระเบิดใส่กับมวลชนและที่กำลังกลับบ้าน พร้อมเด็กอาชีวะที่กลับนครปฐม ทำให้น้องนักศึกษาสาว 2 คน ถูกลูกหลงในครั้งนี้

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้รายงานจากโรงพยาบาลศูนย์นครปฐมว่านักศึกษา 2 รายที่โดนสะเก็ดระเบิด ได้มารักษาตัวที่โรงพยาบาล จากนั้นได้เข้าไปตรวจสอบแล้วพบว่า น.ส. เอ อายุ 17 ปี (นามสมมุติ) เป็นนักศึกษาวิทยาลัยการอาชีพแห่งหนึ่งใน อ. สามพราน จ.นครปฐม ได้รับบาดเจ็บถูกสะเก็ดระเบิด 2 รู และ น.ส. บี (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี เป็นนักเรียนชั้น ม. 4 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ. สามพราน จ.นครปฐม คนนี้มีบาดแผลที่ถูกสะเก็ดระเบิดที่ขาซ้าย 6 รู แพทย์ได้ทำการผ่าตัดจนอาการปลอดภัยดีแล้ว

น.ส. บี ได้เล่าว่า ตนไปม็อบที่ กรุงเทพฯ โดยออกจากบ้านเวลา 20.00 น.ของวันที่ 24 ต.ค. 63 ที่ผ่านมา พร้อมกับ น.ส.เอ และเพื่อนรวม 4 คน  ได้ขี่มอเตอร์ไซค์  2 คัน มุ่งหน้าไปม็อบที่บริเวณหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ หลังจากเสร็จกิจกรรม ในเวลา 23.00 น. จึงชวนกันกลับบ้าน ตนนั่งซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซค์ ของ น.ส.เอ แต่ขี่หลงทางเข้าไป จ.นนทบุรี เสียเวลาไปกว่า 1 ชั่วโมง

ปรากฏว่าเจอกลุ่มคนนครปฐม ขี่รวมตัวกันมา 30 คัน จึงขอร่วมทางเข้ากลุ่มเพื่อมุ่งหน้ากลับนครปฐมด้วย เมื่อมาถึงบริเวณพุทธมณฑลสาย 5 ได้มีมอเตอร์ไซค์  อีกกลุ่มกว่า 10-15 คัน ขี่รถสวนทาง จากนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้นก่อนจะมีเสียงตะโกนด่าทอ กลุ่มของตนจึงขี่หลบหนีไปทางพุทธมณฑลสาย 5 แต่ก็ยังเจอกลุ่มนั้นสวนทางมาอีก

คราวนี้ได้ยินเสียงระเบิดดังตูม จึงรีบเร่งเครื่องหลบหนีจนพ้นสายตาของอีกฝ่าย ขณะนั้น น.ส.เอ ขี่รถต่อไปไม่ไหว ทำให้พี่ๆ เพื่อนๆ ในกลุ่มช่วยกัน นำตัวส่งที่โรงพยาบาลในเขตสามพราน ก่อนแพทย์จะส่งเข้าศูนย์นครปฐม เพื่อทำการผ่าตัด

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คน ยืนยันว่าตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง แต่เป็นไปได้ว่าอาจเกิดความไม่พอใจที่คิดว่าเป็นแก๊งซิ่งข้ามถิ่นเข้ามาก็เป็นได้ หรือคิดว่าเป็นฝ่ายคู่อริ