นักเรียนหญิง ม.6 ดับปริศนา หลังไม่เข้ากิจกรรม ครูมาไล่จึงวิ่งหนีเข้าป่า สุดท้ายดับปริศนา

3 นักเรียนหญิงชั้น ม.6 ไม่เข้ากิจกรรมสวดมนต์วันศุกร์ เจอครูฝ่ายปกครองไล่หนีกระเจิง 1 ในนั้นหายไป กลายเป็นศพกลางป่าหลังโรงเรียน พ่อข้องใจยังไม่ได้รับคำชี้แจงจากครู ด้านครูฝ่ายปกครองเปิดใจ เป็นคนพบน้องฟิล์มหมดสติอยู่กลางป่า ตอนนั้นยังมีลมหายใจ รีบอุ้มพาส่งโรงพยาบาลทันที แต่ไม่ได้แจ้งผู้ปกครอง เพราะไม่รู้ชื่อนักเรียน

 

 

เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2565 ร.ต.อ.เกรียงศักดิ์ กิจไธสง รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ได้เชิญครูฝ่ายปกครองโรงเรียนสตึก อ.สตึก ไปให้ถ้อยคำ หลังจาก น.ส.นิชาดา หรือฟิล์ม อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.6 เสียชีวิตอยู่ที่ป่าหลังโรงเรียนอย่างเป็นปริศนา

 

ม.6 หนีครูปกครองเข้าป่าหลังโรงเรียน ก่อนดับปริศนา พ่อแคลงใจไร้คำชี้แจง

 

นางสาวจุฬารัตน์ อายุ 17 ปี เพื่อนน้องฟิล์มที่เสียชีวิต เล่าว่า ตนกับเพื่อนรวม 3 คน ไม่ได้เข้าคาบเรียนสุดท้าย ซึ่งเป็นคาบกิจกรรม คือการสวดมนต์ ได้ลงมานั่งเล่นอยู่ชั้นล่างของอาคาร ไปซื้ออาหารมากินร่วมกัน

 

น้องเจ (นามสมมติ) เพื่อนของ น.ส.ฟิวส์

 

ต่อมาครูฝ่ายปกครองทราบ ได้เดินมาไล่ จึงวิ่งหนีครู ส่วนครูก็วิ่งตาม จากนั้นได้วิ่งไปด้านหลังโรงเรียนซึ่งเป็นป่า โดยไม่รู้ว่าใครวิ่งไปไหนบ้าง ตอนกลับออกมาไม่เห็นฟิล์ม ไม่รู้ว่าวิ่งไปทิศไหน และคิดว่าน่าจะกลับไปขึ้นรถรับส่งโรงเรียนแล้ว จึงไม่ได้สนใจ จนกระทั่งตอนค่ำถึงทราบข่าวว่า ฟิล์มเสียชีวิตในป่า

 

นิรุส ศาลางาม พ่อของน.ส.ฟิวส์

 

นายนิรุส ศาลางาม อายุ 40 ปี พ่อน้องฟิล์ม บอกว่า การเสียชีวิตของลูกสาวเป็นปริศนามาก เพราะยังไม่มีครูคนใด ออกมาชี้แจง หรือมาให้ข้อมูลถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยังไม่มีครูคนใดมาที่บ้าน มีเพียงโทรศัพท์มาแจ้งว่า “จะรับผิดชอบ”

 

 

ที่แปลกไปกว่านั้น หมอเป็นคนโทรศัพท์แจ้งตนว่า “ลูกสาวสิ้นใจแล้ว”ความจริงแล้วครูน่าจะแจ้งก่อนตั้งแต่เกิดเหตุ สาเหตุการเสียชีวิตตอนนี้รู้จากแพทย์ว่า “หัวใจล้มเหลว” ส่วนสาเหตุของการล้มเหลว ครูยังไม่ออกมาชี้แจงแต่อย่างใด อยากให้ทุกคน ตั้งแต่ครู นักเรียน หรือคนที่ไปพบลูกสาวคนแรก ว่าเป็นใคร และใครเอาไปส่งโรงพยาบาล แต่ทุกคนปิดปากเงียบ

 

ครูปกครองเปิดใจ เจอน้องฟิล์มหมดสติกลางป่า แต่ไม่ได้แจ้งพ่อแม่ เพราะไม่รู้ชื่อ นร.

 

ล่าสุด เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2565 มีรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า นายนิรุส อายุ 40 ปี และนางนุชจิรา อายุ 38 ปี พ่อและแม่ของน้องฟิล์ม พร้อมญาติกว่า 20 คน เข้าไปทำพิธีเชิญดวงวิญญาณของน้องฟิล์มบริเวณป่าข้างโรงเรียนตามประเพณี โดยช่วงนั้นได้มีครูของโรงเรียนไม่พอใจที่มีนักข่าวเข้ามาในโรงเรียน อาจเป็นเพราะเกรงว่าโรงเรียนจะเสียชื่อเสียง

 

ครูฝ่ายปกครองเปิดใจ ไม่ได้แจ้งผู้ปกครอง เพราะไม่รู้ชื่อนักเรียน

นายปณิธาน อายุ 35 ปี ครูฝ่ายปกครอง ซึ่งเป็นครูที่ตามนักเรียนเข้าไปสวดมนต์ ได้พาไปชี้จุดที่เจอน้องฟิล์มหมดสติในป่า พร้อมเล่าเหตุการณ์ในวันที่เกิดเหตุว่า คาบสุดท้ายของวันศุกร์ ทางโรงเรียนจะมีกิจกรรมสวดมนต์ แต่มักจะมีเด็กนักเรียนจำนวนหนึ่งไม่ชอบร่วมกิจกรรม ตนซึ่งอยู่ฝ่ายปกครอง จึงใช้วิธีต้อนให้เข้าไปสวดมนต์ แต่วันนั้นมีเด็กนักเรียนมากกว่า 10 คน ที่ไม่ยอมขึ้นไปสวดมนต์ จึงใช้นกหวีดเป่า แต่เด็กกลุ่มนี้วิ่งหนีกันชุลมุน กลุ่มหนึ่งวิ่งเข้าป่า จึงออกไปตาม

 

กระทั่งเห็นน้องฟิล์มนอนหมดสติในท่าตะแคงอยู่กลางป่า ห่างจากโรงเรียนประมาณ 300 เมตร แต่ยังมีลมหายใจ จึงพยายามอุ้มน้องออกจากป่า แล้วรีบนำส่งโรงพยาบาลทันที ส่วนสาเหตุที่ไม่ได้แจ้งผู้ปกครองทราบ เพราะไม่รู้ว่าเด็กชื่ออะไร เนื่องจากวันศุกร์ นักเรียนจะใส่เสื้อยืดกิจกรรม ซึ่งไม่มีชื่อระบุ

 

 
ครูปกครองเปิดใจ เจอน้องฟิล์มหมดสติกลางป่า แต่ไม่ได้แจ้งพ่อแม่ เพราะไม่รู้ชื่อ นร.

 

แม่น้องฟิล์มไม่เชื่อลูกมีโรคประจำตัว ที่ผ่านมาไม่เคยบอกว่าเจ็บปวดตรงไหน

นางนุชจิรา แม่ของน้องฟิล์ม กล่าวว่า ตนมีลูก 2 คน น้องฟิล์มเป็นคนโต คนเล็กเป็นผู้ชายกำลังเรียนอยู่ชั้น ม.3 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนตัวคิดว่าลูกสาววิ่งระยะไกล สำหรับโรคประจำตัวที่มีคนสงสัย ตนไม่เชื่อว่าลูกสาวมีโรคประจำตัว เพราะที่ผ่านมาลูกสาวไม่เคยเอ่ยปากว่าเจ็บปวดตรงไหน

ทั้งนี้ อยากให้โรงเรียนเข้มงวดมากขึ้น เพราะที่ผ่านมามักจะเห็นเด็กนักเรียนออกไปเที่ยวเตร่ตามตัวอำเภอในช่วงเวลาเรียนเป็นประจำ เนื่องจากโรงเรียนไม่มีรั้ว ทำให้เด็กออกทางไหนก็ได้ เช่นเดียวกับลูกสาวที่เสียชีวิต เพราะวิ่งออกจากโรงเรียนได้ง่าย

นอกจากนี้ทางผู้สื่อข่าวยังได้สอบถาม นายวีรศักดิ์ ผู้อำนวยการโรงเรียน ถึงการเยียวยาครอบครัวของน้องฟิล์ม แต่ผู้อำนวยการปฏิเสธที่จะให้ข้อมูล

 

 

 

 

 

ขอบคุณ เนชั่นทีวี/เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว