ปคม.เรียกสองผัวเมียผู้บริหาร บ.โลจิสติกส์ ให้ปากคำปมบังคับสาวหล่อเสพสังวาส 3 คนผัวเมีย ทนาย เผยเสี่ย-เมียรักสาวหล่อมาก

ปคม.เรียกสองผัวเมียผู้บริหาร บ.โลจิสติกส์ ให้ปากคำปมบังคับสาวหล่อเสพสังวาส 3 คนผัวเมีย แลกใช้หนี้ พร้อมตั้งทีมคลี่คลายคดี ผิดถูกว่าตามพยานหลักฐาน แต่ตรวจสัญญาแล้วขัดต่อศีลธรรม บังคับใช้ไม่ได้ ด้านทนายของคู่กรณี เผยเสี่ย-เมียรักสาวหล่อมาก เที่ยวสิงคโปร์เปย์หมดเป็นแสน เรียกบังคับหรือ แม้สาวหล่อบอกโดนบังคับ แต่พูดไม่ตรงกันกับสามีภรรยา ต้องดูจากพยานหลักฐาน

 

 
ปคม.เรียกผัวเมีย บ.โลจิสติกส์ให้ปากคำ ปมบังคับสาวหล่อทรีซัม 3 คนผัวเมีย
 
 

จากกรณี น.ส.มิ้น (นามสมมติ) อายุ 32 ปี สาวหล่อ ยื่นร้องขอความเป็นธรรมกับทางกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) หลังถูกคู่สามีภรรยาเจ้าของบริษัทโลจิสติกส์ชื่อดังแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.ชลบุรี ที่เป็นนายจ้างบังคับข่มขืนและให้อยู่กินฉันสามีภรรยา และมีการร่วมเพศเสพสังวาสพร้อมกัน 3 คน หรือ ทรีซัม (Threesome) เพื่อแลกกับการชดใช้หนี้ หากไม่ทำตามจะถูกฟ้องร้องเรียกเงิน 10 ล้าน ตามที่เคยมีการนำเสนอไปแล้วนั้น

สำหรับความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 11 พ.ย.65 นายเอกสิทธิ์ ศรีสังข์ ทนายความส่วนตัวของคู่สามีภรรยา บ.โลจิสติกส์ ที่ถูกกล่าวอ้าง เดินทางมาทำธุระที่สน.บางโพงพาง และให้สัมภาษณ์ หลังจาก ‘สาวหล่อ’ ไปออกรายการโหนกระแส

 
 

นายเอกสิทธิ์ กล่าวว่า จากที่ฟังสาวหล่อให้สัมภาษณ์ มีหลายเรื่องที่พูดสอดคล้องกับสิ่งที่ตนได้ยินมา แต่มีบางเรื่องที่ 2 ฝ่ายพูดไม่ตรงกัน สุดท้ายพิสูจน์ในชั้นศาลจากพยานหลักฐานที่มี ส่วนคลิปเสียงที่ออกมา เป็นการตัดบางช่วงบางตอน ไม่ใช่การนำเสนอคลิปเต็ม

 

โดยความสัมพันธ์ทั้ง 3 คน ยืดเยื้อมาตลอด 6 ปี จนได้ตกลงอยู่กัน หลังจากนั้นอาจเกิดปัญหากัน สาวหล่อพยายามไปแจ้งความดำเนินคดี ในข้อหาข่มขืน ตนค่อนข้างเชื่อในสิ่งที่ลูกความเล่า จากข้อมูลพยานหลักฐานที่มี ไม่น่าจะถึงขั้นข่มขืน

นายเอกสิทธิ์ กล่าวอีกว่า เนื้อหาในเอกสารสัญญา ทำขึ้นเพื่อปกป้องสาวหล่อทั้งนั้น เช่น จะมีการฟ้องร้องคดีชู้สาว และไม่เรียกทรัพย์สินคืนมา ซึ่งเป็นสัญญาที่ร่างกันเอง โดยไม่ผ่านการตรวจสอบจากทนายหรือนักกฎหมาย บางข้อไม่สามารถบังคับใช้อยู่แล้ว

 

ส่วนที่สาวหล่ออ้างว่า รูปที่เห็นไปเที่ยวด้วยกัน 3 คน ถูกขู่บังคับให้ไปนั้น ใครดูข่าวคงจะมองออกว่าเราสามารถบังคับคนอื่น ไปเที่ยวต่างประเทศได้หรือไม่ อย่างเช่นตอนไปเที่ยวสิงคโปร์มีการซื้อของขวัญให้สาวหล่อ หมดไปหลายแสนบาท ซึ่งสาวหล่อเป็นคนเลือกซื้อเอง ตนมีพยานหลักฐานทั้งหมด แต่ขอยังไม่เปิดเผย

 

นายเอกสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ลูกความ 2 สามีภรรยาบอกว่า รักสาวทอมมาก ถ้าไม่รักคงไม่เปย์ ยอมรับว่าตอนนี้ลูกความเครียดมาก ตนอยากให้สังคมฟังข้อมูลทุกด้าน ส่วนเรื่องบังคับร่วมเพศ ลูกความบอกว่าไม่ได้บังคับ สาวหล่อบอกว่าโดนบังคับ ซึ่งพูดไม่ตรงกัน ต้องดูจากพยานหลักฐาน ไม่อยากให้ถึงขั้นฟ้องร้องกัน หากเจรจาหาทางออกร่วมกัน น่าจะดีที่สุด

 

 

ด้าน สาวหล่อ ยืนยันว่าถูกขืนใจ ส่วนที่ไปอยู่กินกัน 3 คนผัวเมีย เกิดจากการถูกข่มขู่ บังคับ เรื่องของสัญญาที่อีกฝ่ายอ้างว่าตนร้องขอให้เขียนขึ้นมา ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง จะทำแบบนั้นเพื่อผูกมัดตัวเองเพื่ออะไร

          

ส่วนภาพที่มีการไปเที่ยวกัน 3 คน มีการไปเที่ยวกันจริง แต่ก็ไม่ได้เต็มใจหรือมีความสุข จำเป็นต้องทำไปตามน้ำ หากไม่ไปก็จะถูกข่มขู่อีก เช่น จะแจ้งความเอาผิดเรื่องที่ไปคุยกับภรรยาของเขา หรือขู่จะฟ้องเรียก 10 ล้าน เพราะผิดข้อตกลงในสัญญา

          

กรณีที่ฝ่ายชายอ้างว่าตนยินยอมเองทุกอย่าง ด้วยเพศสภาพของตนยืนยันว่าไม่ได้ชอบผู้ชาย จะมาบอกว่าตนยินยอมมันเป็นไปไม่ได้ อีกทั้งยังมีคลิปเสียงระหว่างผู้เสียหายกับฝ่ายสามี ใจความคือสาวทอมพยายามจะต่อรองให้เสี่ยยินยอมปล่อยให้ไปเป็นอิสระ ยืนยันว่าตนไม่เคยยินยอมทนอยู่ในฐานะเมียสักครั้ง ตนย้ำว่าไม่ได้ชอบผู้ชาย แล้วถ้าวันหนึ่งตนท้องขึ้นมาจะทำอย่างไร

 

ส่วนในคลิปเสียง ฝ่ายชายกล่าวว่าจะไม่ปล่อยแน่นอน เพราะสาวทอมเซ็นสัญญาไว้แล้ว ยินยอมจะอยู่เป็นเมียอยู่แล้ว ก็ต้องทำหน้าที่เมียให้ดี เวลาจะอยู่กับคนอื่นจะไปชอบผู้หญิง หรืออะไรกับใคร ไม่เคยยุ่ง แต่เวลาอยู่กับเขาต้องทำหน้าที่เมีย หากไม่ทำแบบนี้แล้วมีเงิน 10 ล้านมาจ่ายเขาได้เหรอ ซึ่งสาวทอมยืนยันว่า ที่ผ่านมาตนพยายามหนีมาตลอด แต่ตอนนี้ขอไม่เจรจาแล้ว และจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

 

 

 

ขอบคุณ เที่ยงวันทันเหตุการณ์/ไทยรัฐ