ฝันสลาย เสียเงิน 2 ล้านสร้างบ้าน แต่กลับได้บ้านร้าง

แม่ค้าสาวฝันสลาย กู้เงินธนาคารสร้างบ้านเป็นหนี้เกือบ 2 ล้าน สุดท้ายได้บ้านร้าง เชื่อถูกนายหน้ากับผู้จัดการแบงก์โกง

 

 

 

วันที่ 7 พ.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งส่งคลิปภาพบ้านหลังหนึ่งที่ยังก่อสร้างไม่เสร็จและถูกปล่อยทิ้งร้างในสภาพทรุดโทรม ร้องเรียนไปที่เพจ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น Part 1 เล่าเรื่องราวว่ากำลังเดือดร้อนหนัก ระบุได้กู้เงินธนาคารเพื่อสร้างบ้านหลังนี้เกือบสองล้าน แต่สุดท้ายกลับได้บ้านตามสภาพที่เห็น ที่ผ่านมาพยายามติดต่อสอบถามไปกับทุกส่วนที่เกี่ยวข้องกลับไม่มีคำตอบ จนทุกวันนี้ต้องรับภาระเป็นหนี้ก้อนโตแลกกับบ้านร้าง

 

 

น.ส.ปิยะนุช สุทธเสนา อายุ 34 ปี เจ้าของเรื่องร้องเรียน โดยน.ส.ปิยะนุชพาเข้าไปดูที่บ้านหลังนี้ ตั้งอยู่ในซอย 14 หมู่บ้านบ่อน้ำเย็น หมู่ 11 ต.ป่าแดด อ.เมืองเชียงใหม่ พบเป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ เนื้อที่ 57 ตารางวา ตัวบ้านก่อสร้างแล้วเสร็จในส่วนโครงสร้าง ก่ออิฐฉาบปูน หลังคา ฝ้าเพดาน และปูพื้นกระเบื้อง ส่วนที่เหลือทั้งกำแพงรั้ว ประตู หน้าต่าง ระบบไฟฟ้า ประปา รวมทั้งรายละเอียดอื่นๆ ถูกทิ้งงานจนบ้านอยู่ในสภาพรกร้าง มีเศษวัสดุกองเต็มพื้นที่ แถมหลังบ้านยังถูกขุดดินและมีน้ำท่วมขังจนกลายเป็นบ่อปลา

 

 

น.ส.ปิยะนุช เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีอาชีพเป็นแม่ค้าขายหมูอยู่ที่อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ ก่อนหน้านี้ปี 2562 อยากจะมีบ้านเพื่อสร้างครอบครัว แต่ขณะนั้นไม่มีงานทำและเช่าบ้านอยู่ที่อ.แม่วาง ต่อมารู้จักกับยายหน่อย อายุประมาณ 70 ปี บอกเป็นนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ เสนอขายบ้านพร้อมที่ดินในพื้นที่หมู่บ้านน้ำบ่อเย็น บอกจะดำเนินการเรื่องขอสินเชื่อกับธนาคารแห่งหนึ่ง โดยยืนยันใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียว ไม่ต้องมีเอกสารรายได้หรือรายการเดินบัญชีก็กู้ได้ จึงตกลงไป

 

น.ส.ปิยะนุช เปิดเผยว่า ต่อมานายหน้านัดไปที่ธนาคาร มีพนักงานมาสอบถามข้อมูล จากนั้นไม่ถึง 10 วัน ได้รับแจ้งจากธนาคารว่าสินเชื่อผ่านแล้ว ธนาคารอนุมัติให้ 1,990,000 บาท ทำให้ดีใจมากที่จะได้บ้านตามที่ฝันไว้ จากนั้นธนาคารโอนเงินงวดแรกในวันที่ 12 ก.ย.62 จำนวน 1,390,000 บาท พร้อมกับที่ผู้รับเหมาเริ่มลงเสาเข็มก่อสร้างบ้าน จากนั้นโอนงวดสองวันที่ 24 ต.ค.62 จำนวน 200,000 บาท , งวดที่สาม 2 ธ.ค.62 จำนวน 200,000 บาท และงวดที่สี่ 15 ธ.ค.63 จำนวน 100,000 บาท

 

 

น.ส.ปิยะนุช เผยอีกว่า ผู้รับเหมาก่อสร้างสัญญาว่าจะก่อสร้างบ้านแล้วเสร็จภายใน 1 ปี แต่หลังจากผ่านมาเกือบปี การก่อสร้างล่าช้า ก็ยังไม่เอะใจ เพราะคิดว่าอาจมีปัญหาบ้างเป็นเรื่องปกติ แต่เมื่อครบหนึ่งปีเมื่อกลางปี 2563 กลับพบว่าบ้านถูกทิ้งไว้ ไม่ก่อสร้างต่อ เมื่อสอบถามไปที่ธนาคาร ได้รับคำตอบว่าธนาคารโอนเงินงวดไปแล้วรวม 1.89 ล้านบาท และผู้จัดการคนก่อนที่อนุมัติสินเชื่อได้ย้ายไปสาขาอื่นแล้ว เมื่อสอบถามไปที่ผู้รับเหมา กลับได้รับคำตอบว่าได้ดำเนินการก่อสร้างไปตามเงินงวดที่ได้รับ แต่ไม่ชี้แจงว่าได้รับเงินตามจำนวนที่ทางธนาคารโอนให้หรือไม่ หลังจากนั้นไม่มีคำตอบอะไรจากธนาคารและผู้รับเหมาอีก ส่วนบ้านถูกทิ้งร้างไว้ตามสภาพที่เห็น

 

ต่อมาเมื่อให้วิศวกรที่รู้จักมาตรวจดูบ้านก็พบว่าบ้านยังถูกลดสเปคหลายจุด หลังจากนั้นจึงกลับมานึกดูพบว่ามีหลายจุดที่ผิดสังเกตคือ เงินงวดที่โอนมาทั้งหมด แม้จะเป็นคนเซ็นรับทุกครั้ง แต่เงินไม่ได้ผ่านบัญชีของตัวเองและไม่เคยรู้มาก่อนว่าเงินถูกโอนไปที่ผู้รับเหมาหรือโอนไปที่ใครและจำนวนเท่าไหร่ ประกอบกับสินเชื่อที่อนุมัติได้ง่ายผิดปกติ ทั้งที่ไม่มีรายได้และไม่ต้องใช้เอกสารอื่น ทำให้เชื่อว่าอาจถูกโกง

 

น.ส.ปิยะนุช ยอมรับว่าไม่มีความรู้เรื่องการกู้เงินหรือสร้างบ้านมาก่อน คิดเพียงแต่ว่าผ่านง่ายเลยรีบกู้ รู้สึกเสียใจและผิดหวังมากกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะบ้านหลังนี้คือความฝัน ทุกวันนี้บ้านก็ไม่ได้อยู่และยังต้องเป็นหนี้กับธนาคารทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยอีก 3 แสนกว่าบาทรวมแล้ว 2 ล้านกว่าบาท

 

 

“เมื่อไม่มีคำตอบจากธนาคารสาขาดังกล่าวและผู้รับเหมา จึงร้องเรียนไปที่สำนักงานจังหวัดเชียงใหม่ของธนาคารดังกล่าวและธนาคารแห่งประเทศไทย ขอให้เข้ามาตรวจสอบในเรื่องนี้ เพราะเชื่อว่าจะมีเรื่องที่ผิดปกติ นอกจากนี้ยังบอกอีกว่ามีบ้านอีกหลายหลังในบริเวณเดียวกันที่เจอแบบเดียวกัน แต่ไม่ทราบว่าได้มีการแจ้งความหรือดำเนินการอย่างไร”

 

 

 

 

ขอบคุณ ข่าวสด/sanook.com