พ่อแม่ยากจน ลูกสาว 3 ขวบ โดนรถชนดับ ต่อหน้าต่อหน้า ได้ค่าสินไหม 1 แสนบาท ยกเงินสินไหม ทำบุญให้วัดทั้งหมด

สามีภรรยาฐานะยากจน มีรายได้คนละ 100-200 บาทต่อวัน แต่ใจบุญ ยกเงินค่าสินไหมคดีรถทับลูกสาว 3 ขวบเสียชีวิต ถวายวัดหมดทุกบาททุกสตางค์ เพื่อส่งบุญให้ลูกที่เสียไป

 

อาจเป็นรูปภาพของ 2 คน, ผู้คนกำลังนั่ง, ผู้คนกำลังยืน และ สถานที่ในร่ม

 

วันที่ 26 พ.ย. 65 เพจของ “พระไพศาลประชาทร วิ.” หรือ “หลวงพ่อพบโชค” เจ้าอาวาสวัดห้วยปลากั้ง ต.ริมกก อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย นำเสนอภาพสามีภรรยา ชื่อนายอิ่น จินดา อายุ 40 ปี และนางสิงห์นิตย์ จินดา อายุ 38 ปี บริจาคเงินให้วัด พร้อมระบุว่า ความมาของการบริจาคดังกล่าวเป็นเรื่องที่ทำให้ตกตะลึงและแทบไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นจริง เนื่องจากทั้งคู่นำเงินสดค่าสินไหมทดแทนจากกรณีบุตรสาวอายุ 3 ขวบ ถูกรถทับชนจนเสียชีวิตจำนวน 100,000 บาท แต่กลับไม่เก็บไว้ใช้เองและนำไปบริจาคให้กับทางวัดทั้งหมด

 

อาจเป็นรูปภาพของ 3 คน และ ผู้คนกำลังยืน

 

หลวงพ่อพบโชค กล่าวว่า ทั้งสองสามีภรรยา มีบ้านพักอยู่ที่หน้าวัดห้วยปลากั้งและมีบุตรสาวเพียงคนเดียว โดยนายอิ่นมีอาชีพรับเหมาก่อสร้างทั่วไป ส่วนนางสิงห์นิตย์ มีอาชีพทำแหนมขายในตลาดมีรายได้คนละ 100-200 บาท ถือว่ามีฐานะยากจนแต่เมื่อประมาณ 6 เดือน เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ที่ขับผ่านหน้าบ้านได้ชนและทับศีรษะบุตรสาวจนเสียชีวิตคาที่ ซึ่งวันเกิดเหตุตนและเจ้าหน้าที่วัดได้ไปดูและสอบถามว่ามีค่าจัดงานศพและอื่น ๆ หรือไม่ ปรากฏว่าทั้งคู่ไม่มี

 

ทำให้ทางวัดช่วยเหลือค่าโลงศพและจัดพิธีศพให้ทั้งหมด ต่อมาคดีอุบัติเหตุของลูกสาวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมผ่านชั้นตำรวจไปจนถึงชั้นศาล ซึ่งหลวงพ่อได้พยายามให้กำลังใจและบอกกล่าวกับทั้ง 2 คนว่า หากการเข้าสู่กระบวนการดังกล่าวไม่ใช่ความสุขสูงสุด แม้เราจะได้เงินมากมายก็ตาม ก็ไม่อาจทดแทนความสูญเสียลูกไปได้ แต่การทำความดีเป็นสิ่งยิ่งใหญ่กว่า ดังนั้นจึงไม่ได้เรียกร้องสิ่งใดและยินยอมในคดีมาโดยตลอด

 

กระทั่งคดีได้ข้อยุติถึงที่สุดให้คู่กรณีจ่ายเงินให้จำนวน 100,000 บาท ทั้ง 2 คนถึงบริจาคให้กับวัด เพื่ออุทิศส่วนบุญไปถึงลูก ทำให้ตนตกใจมากและพยายามเกลี่ยกล่อมให้ทั้งคู่นำเงินไปเก็บไว้ใช้ผ่อนเบาความยากจน เนื่องจากทั้งคู่ก็ไม่ได้มีฐานะดีมีรายได้วันละไม่กี่ร้อยบาท ขณะที่หลวงพ่อมีเงินเพื่อทำสาธารณะกุศลอยู่แล้ว

 

อาจเป็นรูปภาพของ 1 คน และ เงิน

 

แต่ทั้งคู่ก็ยืนยันที่จะนำเงินจำนวนนี้บริจาคทั้งหมด เพราะพวกเขาได้หารือกันมาเป็นอย่างดีก่อนที่จะนำเงินมาบริจาคแล้ว ทำให้ทางวัดได้รับเงินไว้สมทบทุนก่อสร้างโรงพยาบาลวัดห้วยปลากั้ง เพื่อสังคมภายในวัดซึ่งกำลังจะเปิดให้บริการในวันที่ 1 ธ.ค. นี้เป็นต้นไป โดยจะนำชื่อของนายอิ่นและนางสิงห์นิตย์ ติดเอาไว้ตรงด้านหน้าอาคารของโรงพยาบาลเพื่อเป็นเกียรติประวัติต่อไป

 

“แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีผู้บริจาคเพื่อสร้างโรงพยาบาลแห่งนี้บางคนบริจาคนับสิบล้านบาทก็มี ก็จะไม่นำรายชื่อมาติดไว้ด้านหน้าโรงพยาบาลเหมือนกับทั้ง 2 คนนี้ เพราะยังไม่ถือว่าใช่ผู้ที่ทำบุญที่ยิ่งใหญ่ เพราะทั้งคู่เขาเป็นคนฐานะยากจน แม้แต่เงินแสนเขาก็ไม่เคยจับต้องมาก่อน แต่เมื่อได้มากลับไม่เก็บไว้ใช้เองและนำมาทำบุญให้ทั้งหมดจากนั้นก็กลับไปทำงานลำบากเหมือนเดิม พวกเขาจึงถือเป็นคนจนผู้ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง” หลวงพ่อพบโชค กล่าว

 

 

 

 

 

 

ขอบคุณ ผู้จัดการออนไลน์/PR.Thailand