ยกระดับสกัดเข้มข้น สมุทรสาคร

การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในจังหวัดสมุทรสาครยังคงน่าเป็นห่วง ล่าสุดมีจำนวนผู้ป่วย 548 คน ผู้ว่าราชการจังหวัดยกระดับมาตรการป้องกันเข้มข้น และปิดกั้นพื้นที่ตลาดกลางกุ้ง และหอพักศรีเมืองแบบเด็ดขาด


ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 07.30 น. ของวันที่ 20 ธันวาคม 2563 บรรยากาศที่บริเวณหน้าตลาดกลางกุ้งจังหวัดสมุทรสาคร ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ก็พบว่าได้มีการกันพื้นที่ไม่ให้มีการเข้า-ออกโดยเด็ดขาด ซึ่งก็มีทั้งการใช้รั้วลวดหนามกั้นเป็นแนวยาว คงเหลือทางเข้าออกที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาครมาคอยเฝ้าดูแลตลอด 24 ชั่วโมง

 

 

ขณะที่ผู้ที่พักอาศัยอยู่ภายในตลาดกลางกุ้งจังหวัดสมุทรสาคร และหอพักศรีเมืองนั้นก็มีหลายคนออกมาด้านหน้าตลาด เพื่อจะขออนุญาตออกมานอกพื้นที่ไปจัดซื้อหาอาหารและของใช้ที่จำเป็น แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่สามารถอนุญาตได้ เพราะเป็นมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตามคำสั่งของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งเมื่อมีการพูดคุยกันก็สร้างความเข้าใจและยอมปฏิบัติตาม โดยผู้ที่พักอาศัยอยู่ภายในที่เป็นคนไทยนั้นก็บอกว่า ตนเองไม่ได้ทำงานในตลาดกลางกุ้ง แต่พักอาศัยอยู่ภายใน เมื่อมีคำสั่งของทางจังหวัดฯ ห้ามเข้าออก จึงทำให้ไปทำงานไม่ได้

 

 

ทั้งนี้ก็อยากจะฝากให้ทางจังหวัดเข้ามาช่วยเหลือดูแลทั้งเรื่องสุขภาพและอาหาร น้ำดื่ม อีกทั้งที่สำคัญคือ ควรที่จะจัดเจ้าหน้าที่เข้ามาฉีดล้างทำความสะอาดพื้นที่โดยรอบตลาดฯ เพื่อเป็นการฆ่าเชื้อโรคและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

 

 

ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า สถานการณ์วันนี้ต้องนับว่าเราอยู่ในขั้นวิกฤติหนักแล้ว หากไม่มีการยกระดับมาตรการป้องกันให้เข้มข้นขึ้น ก็อาจจะทำให้เราสู้กับโควิด-19 ในรอบนี้ไม่ชนะ ดังนั้นถ้าอยากให้จังหวัดสมุทรสาครอยู่รอดไม่แพ้แน่นอน วันนี้คนสมุทรสาครอาจจะต้องยอมเจ็บบ้าง แต่เจ็บวันนี้เพื่อชัยชนะในวันหน้าก็ต้องยอมกันอีกครั้ง ขณะที่ในส่วนของผู้ป่วยที่ตรวจพบเชื้อแล้วนั้นได้แยกออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่พบในโรงพยาบาล 32 คน ก็ยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตามเดิม ส่วนกลุ่มแรงงานต่างด้าวที่พบในตลาดกลางกุ้งและหอพักศรีเมืองนั้น พบว่าเป็นกลุ่มที่พบเชื้อไม่รุนแรง ไม่แสดงอาการ ซึ่งทั้งหมดเป็นแรงงานต่างด้าวที่อยู่ในวัยทำงานสุขภาพแข็งแรงดี ดังนั้นจึงใช้วิธีการกักกันตัวอยู่ในบริเวณดังกล่าวไม่ให้ออกนอกพื้นที่ โดยจะมีทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้าไปดูแลทั้งเรื่องของการตรวจรักษาและอาหาร

 

นายวีระศักดิ์ กล่าวต่อว่า หากการตรวจคัดกรองโรคพบอยู่ในวงจำกัด ก็จะง่ายต่อการควบคุมพื้นที่ระบาดของโรค แต่ถ้าพบอยู่ในพื้นที่อื่นอีกเป็นจำนวนมาก ก็จะต้องมีการประกาศปิดพื้นที่เพื่อควบคุมด้วยเช่นเดียวกัน ดังนั้นจึงขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดสมุทรสาคร หากพบว่าตัวเองต้องสงสัยจะติดเชื้อโควิดก็ขอให้รีบมาเข้ารับการตรวจรักษา หรือหากพบกลุ่มคนต้องสงสัยขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขโดยเร็ว เพื่อการเข้าไปตรวจสอบโรคและการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร เพราะถ้าทุกคนร่วมมือร่วมใจกันก็จะทำให้จังหวัดสมุทรสาครผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปได้ภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้อย่างแน่นอน

 

จากสถานการณ์ดังกล่าว จังหวัดสมุทรสาคร ได้ออกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยยึดหลักตามประกาศเดิมที่เคยปฏิบัติมาแล้ว อาทิ ปิดพื้นที่ตลาดกลางกุ้งจังหวัดสมุทรสาคร และหอพักศรีเมือง ห้ามมีการเข้าออกอย่างเด็ดขาด นับตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 2563 – วันที่ 3 มกราคม 2564, ปิดสถานศึกษาทุกแห่ง ศาสนสถาน สถานที่ออกกำลังกาย สถานที่เล่นการพนัน สวนสนุก ร้านเกม ร้านนวด โรงมหรสพ คอมมูนิตี้มอล สถานทันตกรรม ฯลฯ, งดกิจกรรมหรืองานที่มีการรวมตัวกันของคนจำนวนมากทุกประเภท หากจะดำเนินการต้องได้รับอนุญาตก่อนเท่านั้น สำหรับร้านอาหาร เครื่องดื่ม ซื้อกลับบ้านได้เท่านั้น ห้ามนั่งรับประทาน ร้านค้าสะดวกซื้อ ร้านค้าปลีกต่างๆ เปิดได้เป็นเวลา ให้ปิด 22.00-05.00 น., ตลาดสด ตลาดนัด เปิดขายได้ 6 ชั่วโมง

 

ขอความร่วมมืองดออกนอกเคหสถานโดยไม่จำเป็นในช่วงเวลา 22.00-05.00 น., ห้ามคนต่างด้าวเข้า-ออกจังหวัดสมุทรสาครโดยเด็ดขาด, คนไทยยังคงเดินทางได้ตามปกติ แต่ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ถึงสถานที่ที่จะไป เวลาการเดินทาง และสแกนแอปพลิเคชันไทยชนะ เป็นต้น ซึ่งประกาศทั้งหมดนี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 2563 ถึงวันที่ 3 มกราคม 2564 แต่ถ้าหากสถานการณ์ยังไม่กลับเข้าสู่ภาวะปกติ หรือไม่คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น ก็จะมีการพิจารณาเพื่อประกาศใช้ในระยะต่อไป