รวบแล้ว พระมหาเปรียญฯ ชักดาบค่าอาหาร หนีซุกโรงแรม

จับได้แล้ว พระมหาสมภพ เปรียญธรรม 4 ประโยค บวชเรียนกว่า 20 พรรษา เปลี่ยนชุดฆราวาส นั่งซดเบียร์ ร้องคาราโอเกะ พอร้านปิดพนักงานส่งบิลเก็บเงินบอกไม่มี หนีกลับห้องโรงแรมล็อกประตู คว้าจีวรพระนุ่งห่ม โวยวายลั่นไม่ได้กิน

 

 

 

เมื่อเวลา 00.10 น. วันที่ 15 ก.พ. 65 พ.ต.ท.ไพบูลย์ เลาหะนะวัฒน์ สารวัตรสอบสวน สภ.สัตหีบ รับแจ้งเหตุวุ่นวายภายในร้านอาหารแห่งหนึ่ง เมื่อมีลูกค้าเข้ามาดื่มกินแล้วไม่จ่าย ก่อนที่จะออกจากร้านไปซ่อนตัวอยู่ในห้องพัก โรงแรมแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้กัน จึงเข้าตรวจสอบ

 

พีค! พระชักดาบ หลังหนีเที่ยวซดเบียร์สองลัง รับวาเลนไทน์ | Thaiger ข่าวไทย



ที่เกิดเหตุพบ นายสิทธิพร พัฒนารังคะ อายุ 28 ปี ผู้จัดการร้านอาหาร พร้อมเด็กเสิร์ฟภายในร้าน ราว 10 คน กำลังปิดล้อมห้องพักลูกค้าที่ไม่จ่ายเงิน เนื่องจากถูกล็อกประตูจากด้านใน และมีปากเสียงกันรุนแรง จนลูกค้าโมโห ทุบทำลายมุ้งลวดหน้าต่างจนได้รับความเสียหาย

 

ระหว่างนั้น พนักงานร้านได้สังเกตผ่านช่องหน้าต่าง เห็นลูกค้าคนดังกล่าว ซึ่งก่อนหน้าแต่งตัวชุดเสื้อโปโลสีน้ำเงิน กางเกงยีนส์ กำลังเปลี่ยนเครื่องแต่งกาย เป็นห่มจีวรเหมือนพระสงฆ์ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเกลี้ยกล่อมให้เปิดประตู ก่อนเข้าควบคุมตัว ในสภาพมึนเมาอย่างมาก พูดจานักเลง ไม่มีความสำรวม ทำให้ชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ไม่พอใจ ตะโกนสาปแช่ง



จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว พระรูปนี้ไปสอบปากคำยัง สภ.สัตหีบ ทราบชื่อภายหลังคือ พระมหาสมภพ คล้ายหนองลี อายุ 42 ปี ชาวจังหวัดสุพรรณบุรี ศึกษาระดับเปรียญธรรม 4 ประโยค ไม่ชี้ชัดสังกัดวัดแน่ชัด เบื้องต้น ให้การปฏิเสธเสียงแข็งว่า ไม่เคยไปนั่งดื่มกินภายในร้าน แต่ดื่มเบียร์ภายในห้องพัก 2 ขวด สุดท้ายจำนนด้วยหลักฐานเป็นคลิปของทางร้าน จึงกลับคำ รับสารภาพว่า ไปดื่มเบียร์ที่ร้าน และไม่ได้จ่ายเงินจริง

 

ด้าน นายสิทธิพร พัฒนารังคะ เจ้าของร้าน เล่าว่า พระรูปนี้แต่งกายเหมือนลูกค้าทั่วไปที่เข้ามาเที่ยว มาถึงตั้งแต่ช่วงเย็น ก็สั่งเบียร์มาดื่ม จนร้านปิด 23.00 น. แต่เมื่อขอคิดเงิน กลับไม่มีเงินจ่าย และขอกลับไปเอาเงินที่ห้องพัก เมื่อไปถึงก็ล็อกประตูห้องไม่ให้ใครเข้า ก่อนจะเปลี่ยนชุดเป็นสงฆ์ พร้อมกับปฏิเสธเสียงแข็งว่า ไม่ได้ไปกินที่ร้าน

 



ด้าน พ.ต.ท.ไพบูลย์ เผยว่า หลังเกิดเหตุฝ่ายเจ้าทุกข์ได้นำบิลค่าอาหาร และเครื่องดื่มเบียร์ 2 ลัง รวมเป็นเงิน 3,025 บาท มอบเป็นหลักฐานให้ตำรวจดำเนินคดีในความผิดฐานฉ้อโกง พร้อมนิมนต์ พระครูปลัด วินัย ธีรญฺโญ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเทพประสาทเตาถ่าน มาทำการสึกให้พ้นขาดจากความเป็นสงฆ์ทันที

 

 

 

ขอบคุณ ข่าวสด/ไทยรัฐ