หนุ่มถูกรางวัลที่ 1 โอนเงินเข้าบัญชีเมีย แต่เมียหนีไปกับชู้ แจ้งตำรวจบอกอายัดไม่ได้

หนุ่มใหญ่ถูกลอตเตอรี่ รางวัลที่ 1 รับเงินมา 6 ล้าน โอนเข้าบัญชีธนาคารเมียรัก ที่อยู่กินมา 26 ปี จนมีลูก 3 คน แต่สุดท้ายหอบบัญชีหนีตามชู้ พร้อมถอนไป 2 ล้านบาท โร่แจ้งตร.ขออายัดบัญชี แต่ไม่สำเร็จ

 

 

 

17 พ.ย. 2565 – ร.ต.อ.พีระพงษ์ วีระษร รองสารวัตรป้องกันปราบปราม สภ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด ได้รับแจ้งจาก นายมะนิช (สงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี พร้อมญาติและลูก 3 คน ว่าถูก นางอังคณารัตน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี ภรรยาที่อยู่กินกันมา 26 ปี หนีตามชู้ไปพร้อมกับสมุดบัญชีธนาคาร ซึ่งมีเงินจากการถูกสลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 1 พ.ย. 2565 ไปด้วย

 

อาจเป็นรูปภาพของ 5 คน, ผู้คนกำลังนั่ง, ผู้คนกำลังยืน และ ถนน

 

โดยพบว่า มีการเบิกเงินสดออกไป 2 ล้านบาท จึงพากันมาเข้าแจ้งความที่ สภ.ธวัชบุรี เพื่อแจ้งความขออายัดบัญชี

 

นายมะนิช กล่าวว่า ตนถูกหวยงวดวันที่ 1 พ.ย. 2565 จากนั้นเดินทางไปพร้อมกับเมียและลูก ๆ ทั้ง 3 คน เพื่อไปรับเงินที่กองสลาก ก่อนจะโอนเงินหลังหักภาษีแล้ว จำนวน 5,970,000 บาท เข้าบัญชี นางอังคณารัตน์ ภรรยาที่จดทะเบียนสมรสกัน เมื่อกลับถึงบ้านตนได้ให้ภรรยาโอนเงินเข้าบัญชีตน 1 ล้านบาท เพื่อจะนำไปทำบุญ ภรรยาจึงโอนให้ 1 ล้านบาท

 

ต่อมาภรรยาได้ขอไป 2 แสนบาท จึงให้ไป โดยช่วงที่ไปทำบุญมีชายคนหนึ่งปรากฏตัวในงาน ภรรยาบอกว่าเป็นญาติที่เดินทางมาร่วมทำบุญด้วย จึงไม่ได้เอะใจอะไร กระทั่งเมื่อ 3 วันที่แล้ว ภรรยาหายไปกับชายคนดังกล่าว ตนพยายามโทรหาก่อนได้รับคำตอบว่าไปธุระที่ จ.หนองคาย ไม่นานจะกลับ กระทั่งลูกชายมาบอกว่า เพื่อนบ้านมาบอกว่าพบพฤติกรรมน่าสงสัย ว่าชายคนดังกล่าวน่าจะไม่ใช่ญาติ แต่เป็นชู้

 

นายมะนิช กล่าวต่อว่า จากนั้นลูกชายได้โทรไปต่อว่าแม่ ว่าทำไม่ถูกต้อง พร้อมบอกว่ารู้ความจริงทั้งหมดแล้ว รู้ว่าชายคนดังกล่าวเป็นชายชู้ ที่แอบคบกับแม่มานานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งจะมาปรากฏตัวแค่ 3 วันแล้วหนีตามกันไป ซึ่งทำให้ภรรยาปิดโทรศัพท์หนีไป

 

ล่าสุดวันนี้ตนเช็กเงินในบัญชีธนาคาร พบว่าถูกเบิกออกไป 2,000,000 บาท จึงปรึกษากับธนาคารแล้วว่าให้รีบไปแจ้งความ เพื่อนำหลักฐานมายื่นอายัดบัญชีที่ธนาคาร แต่เมื่อเข้าใจความเจ้าหน้าที่ตำรวจกลับบอกว่า ไม่สามารถดำเนินการให้ตามที่ร้องขอได้ เนื่องจากบัญชีธนาคารเป็นชื่อภรรยา และเป็นบัญชีส่วนตัวของ นางอังคณารัตน์ จึงไม่สามารถอายัดได้ แม้ทั้งคู่จะจดทะเบียนสมรสกันก็ตาม เนื่องจากเป็นบัญชีเฉพาะตัว

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจแนะนำว่า มีวิธีเดียวคือ ติดต่อไปเพื่อขอความเห็นใจให้ภรรยาโอนเงินกลับมา ตนมืดแปดด้าน ไม่มีทางออก จึงขอฝากผ่านสื่อมวลชน เพราะไม่สามารถติดต่อภรรยาทางโทรศัพท์ได้แล้ว

 

อาจเป็นรูปภาพของ 2 คน และ ข้อความ

 
18 พ.ย.65 รายการโหนกระแสวันนี้ พูดคุยกับสามีสุดช้ำ หลังถูกหวยรางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 1 พ.ย. 2565 เลข 913106 ได้เงินรางวัล 6 ล้าน แต่หลังจากขึ้นเงินแล้วเอาเงินฝากไว้ในบัญชีเมีย กลับถูกเมียที่อยู่กินกันมาเชิดเงินหนีไปกับชายอื่น



นายมะนิช สามีที่ถูกเชิดเงินเล่าว่า หลังถูกรางวัลที่ 1 ตนก็ไปขึ้นเงินกับภรรยา ตนเขียนหนังสือไม่เป็น ทำอะไรไม่ค่อยเป็น บัญชีธนาคารของตัวเองก็ไม่มี จึงต้องพาภรรยาไปด้วย ขึ้นเงินมาแล้ว ภรรยาเป็นคนจัดการ เปิดบัญชีให้นายมะนิช แล้วเก็บเงินให้นายมะนิช 1 ล้านบาท เอาไปจ่ายหนี้ครอบครัวอีกประมาณ 1 ล้านบาทเศษ ให้ลูก 2 แสน ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 3 ล้านกว่าบาท อยู่ในบัญชีเมีย ประมาณ 3.7 ล้าน



หลังจากนั้นตนก็มาทำบุญใหญ่ที่บ้าน เพราะถือว่าได้โชคก้อนใหญ่มา วันที่ทำบุญภรรยาก็ยังอยู่ จัดงานอะไรกันจนเรียบร้อย แต่ไม่นานหลังจากนั้น ภรรยาก็เก็บข้าวของออกไปจากบ้าน พร้อมกับเงินในบัญชีทั้งหมด



ลูกชายเล่าว่า ตนได้ยินมาจากชาวบ้าน ว่าแม่มีผู้ชายอื่น และเคยเสียเงินเสียทองให้ผู้ชายอื่นมาแล้ว จึงไปเตือนแม่หลังจากทำบุญบ้านว่า เงินถูกหวยเป็นเงินของพ่อ ห้ามเอาไปให้ใครเด็ดขาด แต่แม่ร้อนตัว จึงเกิดการทะเลาะกันขึ้นมา สุดท้ายแม่ก็เก็บข้าวของออกไปเลย ตอนที่ทุกคนโทรตามหาก็ได้ยินเสียงแม่อยู่กับผู้ชาย จึงมั่นใจว่าแม่ไปอยู่กับชายอื่นแน่นอน ทราบอีกว่าเงินตอนนี้เหลือแค่ 3.1 ล้าน ไม่รู้ว่าที่หายไปประมาณ 6 แสนบาท แม่เอาเงินไปไหน



ขณะที่คุณติ๋ม เพื่อนของฝ่ายภรรยา ยอมรับว่ารู้มานานแล้ว ว่าผู้หญิงมีชายอื่น แต่ไม่กล้าบอกใคร เพราะไม่ใช่เรื่องของเรา เป็นเรื่องของครอบครัวคนอื่น ฝ่ายภรรยาก็มาเล่าให้ตนฟังตลอดว่าเขามีผู้ชายคนไหนบ้าง คนนั้นเลิกไปแล้ว ให้เงินไปเท่านั้นเท่านี้ แล้วก็มามีคนใหม่ ผู้ชายส่วนใหญ่รู้จักในเฟซบุ๊ก ถึงขั้นเคยพามาบ้านตอนมีงานบุญ แนะนำคนอื่นว่าเป็นหลาน แม้แต่สามีก็ไม่รู้ แต่มาบอกความจริงกับตนว่าเป็นผู้ชายที่แอบคบลับๆ



ขณะที่ฝ่ายภรรยา โทรเข้ามาพูดคุยในรายการ บอกว่าตนไม่ได้ทำอะไรผิด ให้ไปตรวจสอบได้เลยว่าใครเป็นคนไปขึ้นเงินที่กองสลาก มีชื่อระบุชัดเจนว่าเป็นชื่อตน เงินเป็นของตนถูกต้องตามกฎหมาย เงินก็เอาเข้าบัญชีของตนโดยตรง ตนไม่ได้เป็นภรรยาของนายมะนิช ทะเบียนสมรสก็ไม่ได้จด ตนจดทะเบียนสมรสกับคนอื่นไปตรวจสอบได้เช่นกัน เงินที่ได้มาตนก็แบ่งให้นายมะนิชไปแล้ว 1 ล้านบาท ในฐานะคนรู้จักกัน ส่วนลูกๆ ก็แบ่งเงินให้ไปหมดแล้ว จะให้ลูกสาวคนเล็ก 1 ล้านบาท คนกลางอีก 5 แสน ส่วนลูกคนโตก็ได้ไปแล้ว 2 แสน



ขณะที่ ทนายแก้ว ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล ยืนยันว่า เงินที่ถูกหวย เป็นทรัพย์สินของคุณมะนิช สามารถไปแจ้งความอดีตภรรยาฐานยักยอกทรัพย์ได้ แล้วใครที่ได้เงินไปจากผู้หญิงคนนี้ ก็มีความผิดฐานรับของโจร ถึงจะไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน แต่เงินถูกรางวัลสลากมันเป็นเรื่องเฉพาะตัว ไม่เกี่ยวกับการสมรส เมื่อฟังคำพูดที่ภรรยาโทรเข้ามาพูดคุยในรายการเมื่อสักครู่แล้ว ไม่มีความตั้งใจจะไกล่เกลี่ยหาทางออกร่วมกันเลย คงจะจบด้วยดียาก อาจจะต้องดำเนินการตามกฎหมายไป



ช่วงท้ายของรายการ นายมะนิชบอกว่าไม่อยากไม่เอาผิดภรรยา ไม่อยากให้ติดคุกติดตาราง สงสารลูก ทั้งสามีและลูกอยากให้เขากลับตัวกลับใจ กลับมาแต่โดยดี เงินจะเอาไปใช้ก็เอาไปเลย ตนหาเงินใหม่ได้ ถ้าอยู่กันเป็นครอบครัวไม่ได้ก็กลับมาดูแลลูกก็พอ



 

 

ขอบคุณ โหนกระแส/ไทยรัฐ/ร้อยเอ็ด สาเกตนคร