สารหล่อลื่น ในอดีตจนถึงปัจจุบัน

เซ็กซ์อยู่คู่กับมนุษยชาติมาเนิ่นนาน สำหรับมนุษย์แล้ว ไม่ได้เป็นเพียงความเพลิดเพลินบันเทิงใจ แต่ยังมีมิติอีกมากมายที่ซ่อนอยู่ ผสมปนเปผ่านวัฒนธรรมอันหลากหลายในแต่ละช่วงเวลา จึงมีดการวิวัฒนาการผ่านช่วงเวลาต่างๆ มาพร้อมกัน อย่างสารหล่อลื่นนี้ ที่เริ่มต้นจากน้ำมันจากธรรมชาติ สู่เจลหล่อลื่นสารพัดรูปแบบในปัจจุบัน

 

     

นอกจากตัวกิจกรรมแล้ว สิ่งต่างๆ ที่ใช้สำหรับร่วมรัก ก็ไม่ได้เพิ่งมามีเมื่อไวๆ นี้ มันถูกสร้างขึ้นมานานแสนนาน พร้อมๆ กันกับที่มนุษย์รู้จักใช้เซ็กซ์ให้เป็นมากกว่าการสืบเผ่าพันธ์ุ ทั้งเซ็กซ์ทอยรูปแบบต่างๆ ของเล่นแสนแฟนตาซี หรือแม้แต่ของเบสิกอย่าง เจลหล่อลื่น ที่ดูเหมือนเป็นสิ่งสังเคราะห์ที่น่าจะเพิ่งมีเมื่อไวๆ นี้ แต่กลับมีมานานพอๆ กัน 

     

ฟังก์ชั่นของมันที่ช่วยเพิ่มความสะดวก ลดความเจ็บปวด ไม่ให้เกิดความติดขัดจนเสียอารมณ์ ยังคงเหมือนกับเจลหล่อลื่นในปัจจุบันไม่เปลี่ยน ยกเว้นความสะดวกสบายของยุคนี้ ที่มาในบรรจุภัณฑ์สะอาด ปลอดภัย มีทั้งแบบอ่อนโยน แบบร้อน เย็น ให้เลือกใช้ตามความชอบ เป็นอันรู้กันว่าเจลหล่อลื่นที่ใช้กันทุกวันนี้เป็นแบบสังเคราะห์ เพื่อทดแทนน้ำหล่อลื่นจากร่างกายเรา แต่สมัยก่อน ตอนยังไม่มีการค้นพบเจลหล่อลื่นสำเร็จรูปใส่หลอดพร้อมใช้ เราพอจะนึกออกหรือเปล่า ว่านอกจากสารหล่อลื่นตามธรรมชาติจากร่างกายของเราแล้ว มนุษย์เราจะใช้อะไรมาเป็นสารหล่อลื่นได้บ้าง?

 

     

สาหร่าย

600 ปีก่อนคริสตกาล สมัยจีนยุคโบราณ สาหร่ายถูกนำมาปรุงเป็นอาหารและยา แต่นอกจากตัวสาหร่ายที่นำมากินแล้ว ผู้คนในตอนนั้นยังสังเกตได้ถึงความเหนียว ข้น หนึบหนับ บางอย่าง ที่คล้ายเจลาตินมากับสาหร่ายในธรรมชาติ ซึ่งมันคือ ‘คาราจีแนน (carrageenan)’ นั่นเอง เริ่มต้นด้วยการเอาสาหร่ายทะเลสีแดงมาต้มจนเป็นของเหลวเหนียวๆ ลื่นๆ แล้วนำมาใช้เป็นสารหล่อลื่น นอกจากจะใช้เป็นกิจกรรมบนเตียงแล้ว คาราจีแนนจากสาหร่าย ก็ยังถูกนำมาใช้ในอาหาร ยา และผลิตภัณฑ์สำหรับความงามอีกด้วย

     

 

น้ำมันมะกอก

ในประเทศกรีซยุคโบราณ น้ำมันมะกอกผสมกับน้ำมันสนซีดาร์ถูกใช้เป็นยากำจัดอสุจิ อริสโตเติลเขียนอธิบายเกี่ยวกับวิธีนี้ แต่เขาเพิ่ม“ครีมตะกั่ว”ลงไปในส่วนผสมดังกล่าวด้วย

พวกผู้หญิงในยุคนั้นค้นพบว่าน้ำมันมะกอกสามารถลดความคล่องแคล่วของตัวอสุจิ ทำให้ผู้หญิงมีเวลาชะล้างน้ำอสุจิของสามีหลังมีเซ็กซ์

ในขณะที่คนเรายังใช้แค่น้ำมันมะกอกอย่างเดียวต่อไปในระหว่างการมีเซ็กซ์ เพื่อเป็นสารหล่อลื่นนั้น แต่ด้วยเหตุที่เห็นได้ชัดว่าน้ำมันมะกอกไม่สามารถใช้ร่วมกับถุงยางอนามัยได้ เพราะมันเป็นน้ำมันอย่างหนึ่ง และน้ำมันจะทำให้ถุงยางฉีกขาด อย่างที่เรียกว่าปลอกแตกนั่นแหละ

 

     

น้ำผึ้ง

ในอียิปต์โบราณ ปากมดลูกเคลือบน้ำผึ้งเป็นการคุมกำเนิดที่สมบูรณ์แบบ ในขณะที่น้ำผึ้งไม่ได้ฆ่าตัวอสุจิ แต่มันจะเป็นสิ่งกีดขวางปากมดลูกเพื่อป้องกันมิให้ตัวอสุจิเข้าไป ผู้หญิงอียิปต์โบราณจะเพิ่มส่วนผสมอื่นๆ เข้าไปกับน้ำผึ้งเพื่อป้องกันมิให้พวกเธอตั้งครรภ์ เช่น น้ำผึ้งผสมกับเกลือและอึจระเข้

การใช้น้ำผึ้งคุมกำเนิดในสมัยใหม่เรียกว่าหมวกน้ำผึ้ง (HONEY CAP) มันเป็นแผ่นไดอะแฟรมที่เคลือบและเก็บในน้ำผึ้ง สำหรับคนที่ต้องการหลีกเลี่ยงฮอร์โมนประดิษฐ์และสารเคมี

วิธีนี้จะช่วยให้ผู้หญิงสอดไดอะแฟรมดังกล่าวเข้าไปปิดปากมดลูกก่อนการมีเซ็กซ์ และมันสามารถอยู่ในร่างกายได้ถึง 48 ชั่วโมง การคุมกำเนิดวิธีนี้มีประสิทธิภาพไม่ถึง 100% แต่มันสามารถมิให้ตัวอสุจิเข้าไปในปากมดลูกได้ จึงเป็นการลดโอกาสในการตั้งครรภ์

 

 

ถุงยางอนามัยจากลำไส้ของสัตว์

ศตวรรษที่ 16 เริ่มมีการใช้ถุงยางอนามัยจากลำไส้ของสัตว์ในประเทศจีนและญี่ปุ่น ในประเทศจีน นิยมใช้ร่วมกับสารหล่อลื่นอย่างน้ำมันจากพืช ส่วนญี่ปุ่นนั้น ในยุคเอโดะ ค่อนข้างมีมุมมองเรื่องเพศคล้ายกับกรีกโบราณที่เล่าไปในตอนต้น มีการใช้น้ำมันกานพลูในเอโดะตอนต้น และริเริ่มมีสารหล่อลื่นแบบใหม่ ที่หลุดออกจากเหล่าน้ำมันทั้งหลาน โดยได้จากการขูดมันเทศ มีชื่อเรียกว่า ‘tororo-jiru’ มีลักษณะเหนียว ข้น และมาจากธรรมชาติเช่นกัน ในปัจจุบัน เราอาจเห็นมันในซุปหรือราเมนของญี่ปุ่นแทน

     

 

ศตวรรษที่ 18 โรเบิร์ต ชีสโบรห์ (Robert Chesebrough) ได้นำปิโตเลี่ยมเจล ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นน้ำมัน มาให้ชาวโลกได้รู้จักเป็นครั้งแรกในฐานะขี้ผึ้งใช้เฉพาะจุด สำหรับใช้ในครัวเรือน ภายใต้ชื่อการค้า ‘วาสลีน (Vaseline)’ โดยก่อนหน้านี้ปิโตเลี่ยมเจลเป็นที่รู้จักเฉพาะเหล่าคนงานแท่นขุดเจาะน้ำมัน ใช้สำหรับช่วยสมานแผล แม้มันจะไม่ได้ถูกใช้ในกิจกรรมรักตั้งแต่แรก แต่ก็มาเริ่มแพร่หลายในฐานะสารหล่อลื่นสำหรับเซ็กซ์ในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 

     

ช่วงเวลาเดียวกันในศตวรรษที่ 19 ผลิตภัณฑ์ Surgical Aid ในชื่อ ‘K-Y Jelly’ เริ่มวางจำหน่ายในตลาด แต่เหล่าผู้ใช้นั้นก็เริ่มนำมาใช้ในจุดประสงค์อื่น โดยเฉพาะสำหรับเซ็กซ์ เมื่อเห็นช่องทางในตลาดแบบนี้ K-Y Jelly ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่ทำมาเพื่อเป็นสารหล่อลื่นโดยเฉพาะในภายหลัง แต่ก็ยังไม่สะดวกมากนัก เพราะต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของแพทย์จนถึงปีค.ศ. 1980 หลังจากนั้นก็สามารถซื้อขายได้อย่างอิสระใน Drugstore 

     

หลังจากนั้นก็เริ่มมีสารหล่อลื่นอื่นๆ มากขึ้น นอกจาก Glycerin-Base ยังมี Cream-Base และ Water-Base ที่ไม่ทิ้งผิวสัมผัสเหนียวเหนอหนะหลังใช้งาน รวมทั้งสารหล่อลื่นที่เพิ่มลูกเล่นเข้าไป อย่างแบบร้อน เย็น มีรสชาติ มีกลิ่น นอกจากจะใช้สำหรับล่อลื่นที่พื้นที่ลับโดยตรง ยังสามารถนำไปนวดตามร่างกายเพื่อเพิ่มลีลาให้เกมรักร้อนแรงยิ่งขึ้น

     

แม้จะมีสารหล่อลื่นให้เราเลือกใช้มากมายหลายแบบ แต่ถุงยางอนามัยนั้น ก็ใส่สารหล่อลื่นมาให้เราแล้วส่วนหนึ่ง สามารถใช้เพียงสารหล่อลื่นที่มากับถุงยางอนามัยและสารหล่อลื่นที่มาจากร่างกายก็เพียงพอแล้ว อาจใช้สารหล่อลื่นช่วยเพิ่มเติมในกรณีที่มีสารหล่อลื่นจากร่างกายน้อย หรือการร่วมเพศทางทวารหนัก ที่ต้องการความลื่นไหลมากยิ่งขึ้น แต่ถ้าหากใครไม่อยากใช้เจลสังเคราะห์ ก็สามารถ Back to Basic ด้วยน้ำมันจากธรรมชาติได้เช่นกัน แถมยังหาซื้อง่ายกว่ากันอีกด้วย นอกจากน้ำมันมะกอกแล้ว ยังมีน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ที่เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ 

   

 

 

ที่มา: SOURCE 1 / SOURCE 2 / SOURCE 3

ขอบคุณผู้สนับสนุนข้อมูลดีๆ จาก ALLSUREWIN

สนใจเข้ามาผ่อนคลายกับหลากหลายเกมส์มากมายให้เลือกเล่น ได้ที่ @ALLSUREWIN

เล่นที่นี่มีแต่วิน ต้องวินชัวร์ แอด @winsure

ใครปิด เราไม่ปิด สนใจเสี่ยงดวงติดต่อเราได้ที่ไลน์ @asw888 ตลอด 24 ชม.


เกมดี เกมมัน มากกว่า 1,000 เกม @gamewin


แค่คิดถึงเรา เงินก็อยู่ในบัญชี @asw168