Isuzu MU-X 2021 โฉมใหม่มีอะไรดี

เปิดตัวออกมาอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้วสำหรับ Isuzu MU-X 2021 มาพร้อมนิยามที่ว่า “Originality Redefined เหนือทุกความเชื่อ เหนือทุกความสำเร็จ” โดยทาง อีซูซุ หวังที่จะทำให้ตลาดรถยนต์ PPV กลับมาแข่งขันกันอย่างดุเดือดอีกครั้ง โดยครั้งนี้เป็นการอัพเกรดครั้งใหญ่ มีการปรับเปลี่ยนดีไซน์ใหม่ทั้งภายนอกและภายใน ทำการเพิ่มเติมเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและฟีเจอร์เด็ด ๆ เข้าไปมากมาย

สำหรับรุ่นนี้มีการเตรียมวางจำหน่ายทั้งหมด 4 รุ่นย่อย คือ Active, Luxury, Elegant และ Ultimate ซึ่งเปิดราคาเริ่มต้นมาเพียง 1.109 ล้านบาท เท่านั้น

 

รูปลักษณ์ภายนอก

 

สำหรับ All-New Isuzu MU-X โฉมใหม่ ต้องบอกเลยว่า มันมาพร้อมกับรูปร่าง หน้าตาที่หล่อขึ้นมาจากเดิมมาดเลยทีเดียว ซึ่งเป็นการผสมผสานความหนักแน่นและเส้นสายที่พลิ้วไหวเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว กระจังหน้าแบบ World Cross Flow ที่ดูโดดเด่น รับกับเส้นข้าง ๆ ตัวถังที่ผสานกับเส้นโครเมียมบริเวณขอบด้านล่างของกระจก ช่วยให้ตัวรถดูโฉบเฉี่ยว

ไฟหน้า Bi-LED Projector ดีไซน์แบบ Arrow Signature ช่วยเพิ่มความหรูหราขึ้นอีกระดับ ส่วนไฟท้าย มีดีไซน์แบบ Winglet Signature โคมไฟ LED 3 ระดับ เพิ่มมิติตัวรถให้โดดเด่นมากยิ่งขึ้น และในส่วนของล้อจะให้มาเป็น ล้ออัลลอย ไดนามิคดีไซน์ โดยในรุ่น Active ให้ล้อ 17 นิ้ว ส่วนรุ่น Luxury และ Elegant ใช้ล้อ 18 นิ้ว และสุดท้ายรุ่น Ultimate มาพร้อมกับล้อขนาดใหญ่ 20 นิ้ว

 

การออกแบบภายใน

การออกแบบห้องโดยสารเน้นไปที่ความพรีเมี่ยม กว้างขวาง ใช้แนวคิด Fine, Rich & Impressive Craftsmanship ที่ตกแต่งแบบทูโทนด้วยวัสดุคุณภาพ เสริมความมีระดับด้วยแสงไฟ Ambient Light และ Dome Light เบาะนั่งดีไซน์สปอร์ต ออกแบบให้โอบกระชับลำตัว หุ้มด้วยวัสดุพิเศษเดินด้ายอย่างดี โดยเบาะคู่หน้ามีการปรับไฟฟ้า พร้อมกับเทคโนโลยีคลูแม็กซ์ ที่ช่วยลดการสะสมความร้อน ทำให้นั่งนาน ๆ ได้อย่างสบาย ขับขี่ทางไกลไร้ปัญหา และตำแหน่งอุปกรณ์ต่าง ๆ จัดวางมาเป็นอย่างดี ใช้งานง่าย คอนโซลหน้าดีไซน์สุดล้ำ มีการเชื่อมต่อเป็นหนึ่งเดียวกับคอนโซลกลาง ช่วยให้ผู้ขับขี่ควบคุมและสั่งการทุก ๆ อย่างได้สะดวกขึ้น

 

ระบบความปลอดภัย

ในเรื่องของระบบความปลอดภัยนั้น ทาง Isuzu ใส่มาให้แบบไม่ยั้ง โดยมีทั้ง เข็มขัดนิรภัยเบาะคู่หน้า ELR 3 จุด พร้อมระบบดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ เบาะตอน 2 ELR 3 จุด 3 ตำแหน่ง และเบาะตอน 3 มี ELR 3 จุด 2 ตำแหน่ง, มีถุงลมคู่หน้า, จุดยึดที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กที่เบาะตอน 2, กระจกมองหลังปรับปรับลดแสงสะท้อน, ระบบเบรคมือไฟฟ้า พร้อม Auto Hold, สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติ ESS, ระบบกันล้อล็อก ABS พร้อมด้วย EBD และ BA, ระบบลดกำลังเครื่องยนต์ BOS, ระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ ESC, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA, ระบบช่วยควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC, ระบบควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย TSC และกล้องมองภาพด้านหลังขณะถอยจอด ให้มาเป็นพื้นฐานตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น (ยกเว้น ในรุ่น Active จะไม่มีกล้องถอยมาให้)

ส่วนระบบที่เพิ่มเข้ามา ตั้งแต่รุ่น Elegant ขึ้นไป ได้แก่ ถุงลมคู่หน้า (Dual SRS Airbags), ถุงลมด้านข้าง (SRS Side Airbags), ม่านถุงลมด้านข้าง (SRS Roof Rail Airbags), กระจกมองหลังปรับแบบปรับลดแสงสะท้อนได้แบบอัตโนมัติ, ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง BSM, ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ RCTA, เซ็นเซอร์ช่วยกะระยะ และระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อออกห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock)

และระบบความปลอดภัยสุดล้ำ ที่มีเฉพาะรุ่น Ultimate คือ ระบบแจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า Forwar Collision Warning (FCW), ระบบเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติ Autonomous Emergecy Braking (AEB), ระบบแจ้งเตือนออกนอกเลน Lane Departure Warning (LDW), ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์เมื่อเหยียบคันเร่งผิดพลาด Pedal Misapplication Mitigation (PMM), ระบบตั้งค่าจำกัดความเร็วสูงสุดด้วยตัวเอง Manual Speed Limiter (MSL), ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ Automatic High Beam (AHB) และระบบเบรคอัตโนมัติหลังการเกิดอุบัติเหตุ Multi-Collision Brake (MCB)

 

สมรรถนะเครื่องยนต์

ในด้านขุมพลังของ All-New Isuzu MU-X 2020 นั้น ตั้งแต่รุ่น Active, Luxury และ Elegant จะใช้ขุมพลังจาก เครื่องยนต์ดีเซล 1.9 Ddi Blue Power Gen2 แบบ 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว DOHC คอมมอนเรลไดเร็คอินเจคชั่น VGS เทอร์โบและอินเตอร์คูลเลอร์ รหัส RZ4E-TC สามารถทำกำลังสูงสุดได้ 150 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-2,600 รอบ/นาที ขับเคลื่อนเคลื่อน 2 ล้อ

ส่วนในรุ่น Ultimate สามารถเลือกได้ว่าจะใช้เครื่องยนต์แบบแรก หรือใช้ขุมพลังจาก เครื่องยนต์ดีเซล 3.0 Ddi Blue Power 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว DOHC คอมมอนเรลไดเร็คอินเจคชั่น VGS เทอร์โบและอินเตอร์คูลเลอร์ รหัส 4JJ3-TCX สามารถทำกำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที มีแรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,600 รอบ/นาที ระบบขับเคลื่อนมีให้เลือกทั้ง 2 ล้อ และ 4 ล้อ และในรุ่นนี้จะมาพร้อมกับระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift) ด้วย

โดยเครื่องทั้ง 2 ตัว ใช้ระบบส่งกำลังจากเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ที่มาพร้อมระบบ Rev Tronic ส่วนเกียร์ธรรมดา มีให้เลือกเฉพาะในรุ่น Luxury เท่านั้น

 

รุ่นและราคาของ All-New Isuzu MU-X

เครื่องยนต์ รุ่น ราคา
1.9 Ddi Blue Power Gen 2 4×2 1.9 Ddi Active A/T 1,109,000 บาท
4×2 1.9 Ddi Luxury 1,254,000 บาท
4×2 1.9 Ddi Luxury A/T 1,304,000 บาท
4×2 1.9 Ddi Elegant A/T 1,349,000 บาท
4×2 1.9 Ddi Ultimate A/T 1,434,000 บาท
3.0 Ddi Blue Power Gen 2 4×2 3.0 Ddi Ultimate A/T 1,479,000 บาท
4×4 3.0 Ddi Ultimate A/T 1,579,000 บาท

 

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับ All-New Isuzu MU-X 2020 โฉมใหม่นี้ คุณคิดว่ามีดีพอจะต่อสู้กับเจ้าตลาดอย่าง Toyota Fortuner ที่ได้เปิดตัวไปก่อนหน้านี้หรือไม่ ? แต่สิ่งหนึ่งที่น่าจะทำให้ตลาดรถยนต์ PPV กลับมาต่อสู่กันอย่างดุเดือดอีกครั้ง นั่นก็คือ ค่าตัวของ MU-X ที่มีราคาเริ่มต้นเพียง 1,109,000 บาท เท่านั้น ซึ่งเมื่อเทียบดูกับออฟชั่นต่าง ๆ ที่ใส่มาแล้ว ต้องขอบอกเลยว่ามันช่างเย้ายวนชวนให้เป็นเจ้าของยิ่งนัก

ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ! ทาง อีซูซุ ยังมาพร้อมกับแคมเปญ “Exclusive Driver… Exclusive Life ขับแบบเอ็กซ์คลูซีฟ… ใช้ชีวิตแบบเอ็กซ์คลูซีฟ”ที่มอบการใช้ชีวิตแบบสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ให้กับเจ้าของ All-New Isuzu MU-X เป็นโปรแกรมมอบสิทธิพิเศษมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เอกสิทธิ์สุดพิเศษ, ไลฟ์สไตล์, อาหารเครื่องดื่ม, ท่องเที่ยว, my MU-X และสิทธิพิเศษ ในการที่คุณสามารถเข้าร่วมกิจกรรมสุด Exclusive ได้

 

 

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : ISUZU