มาทำความรู้จักกับสัตว์ที่มีชื่อว่า”นาก” กันดีกว่า

สวัสดีค่ะวันนี้แอดจะพาไปทำความรู้จักกับสัตว์โลกชนิดหนึ่งซึ่งแอดเชื่อว่าหลายคนรู้จักและคุ้นเคยชื่อนี้เป็นอย่างดี และมีอีกหลายคนที่ไม่เคยรู้จักสัตว์ชนิดนี้เลย สัตว์ที่แอดจะพาไปทำความรู้จักในวันนี้มีชื่อว่า….นาก…

นากเป็นสัตว์ที่มีที่อยู่ในธรรมชาติใกล้กับแหล่งน้ำหรือพื้นที่ชุ่มน้ำต่าง ๆ หลากหลายประเภท เช่น บึง, ทะเลสาบ, ลำธาร, ป่าชายเลน แม้แต่พื้นที่เกษตรกรรมของมนุษย์ เช่น ท้องร่องในสวนผลไม้, นาข้าว หรือนากุ้ง เป็นต้น สามารถพบได้ทั่วโลกเลย

 

นากเป็นสัตว์บกที่สามารถว่ายน้ำและหากินในน้ำได้อย่างคล่องแคล่วมาก มีรูปร่างโดยรวมหัวสั้นและกว้างแบน หูมีขนาดเล็กซ่อนอยู่ใต้ขน นิ้วตีนทั้ง 4 ข้างมีพังผืดคล้ายตีนเป็ด ขนลำตัวสีน้ำตาลอมเทา มี 2 ชั้น ชั้นในละเอียด ชั้นนอกหยาบ ขาหลังใหญ่และแข็งแรงกว่า ขาหน้า ใช้ว่ายน้ำร่วมกับหาง มีฟันแหลมและแข็งแรง มีหนวดยาวใช้เป็นอวัยวะจับการเคลื่อนไหวของสิ่งที่อยู่ใต้น้ำและใช้เป็นประสาทสัมผัสเมื่อเวลาอยู่ในน้ำ ไล่จับปลาและสัตว์น้ำเล็ก ๆ เป็นอาหาร ในบางชนิดอาจกินสัตว์จำพวกอื่นที่มีขนาดใหญ่กว่าได้ด้วย ออกหากินทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน มีพฤติกรรมอยู่รวมกันเป็นฝูงเล็ก ๆ ขุดรูอยู่ริมตลิ่งใช้เป็นรังสำหรับอาศัยและเลี้ยงดูลูกอ่อน และเป็นสัตว์ที่เลี้ยงลูกด้วยนม 

 

จริงๆแล้วนากมีทั้งหมด  6 ชนิด นะคะ แต่สำหรับใน ประเทศไทย พบนากทั้งหมดเพียง 4 ชนิด เท่านั้น โดยทุกชนิดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองทั้งหมด วันนี้แอดจะพามาดูว่าในประเทศไทยมีนากชนิดใดบ้าง

 

     >> นากเล็กเล็บสั้น (Aonyx cinerea)

ลักษณะทั่วไป : เป็นนากขนาดเล็กที่สุดในโลก ตัวผู้มีขนาดใหญ่กว่าตัวเมียเล็กน้อย ขนตามลำตัวมีสีเทาเข้าหรือสีน้ำตาล แต่สีขนบริเวณท้องจะอ่อนกว่า แต่สามารถเปลี่ยนสีขนได้ตามฤดูกาล ลักษณะเด่นคือพังผืดบริเวณนิ้วตีนจะมีขนาดเล็กลงช่วยให้นิ้วเคลื่อนไหวได้คล่องตัวมากขึ้น ใต้คอมีสีขาว มีจมูกที่สั้นมากกว่าชนิดอื่น ตัวที่ยังไม่โตเต็มวัยจะมีจมูกยาว และโค้งกว่า เมื่ออายุได้ 5 สัปดาห์จมูกก็จะหดสั้นลงมีความยาวลำตัวและหางประมาณ 45-55 เซนติเมตร ความยาวหาง 25-35 เซนติเมตร  และจะมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 13 กิโลกรัมนั้นเอง 

ถิ่นอาศัย : พบกระจายพันธุ์ทั้งในทวีปแอฟริกา และทวีปเอเชียในทวีปเอเชียพบตั้งแต่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย, เนปาล, บังกลาเทศ, ภาคใต้ของจีน, พม่า, ไทย, ลาว, กัมพูชา, เวียดนาม, เกาะสุมาตรา, เกาะบอร์เนียว และเกาะชวา 

พฤติกรรม : นากเล็กเล็บสั้นสามารถปรับตัวให้อยู่กับสภาพแวดล้อมต่างๆ ได้เป็นอย่างดีจะอาศัยอยู่ใกล้แห่งน้ำ เช่น ลำธารขนาดเล็ก ป่าชายเลน ห้วย หนอง คลอง บึง หรือแม้แต่พื้นที่ชุ่มน้ำที่เป็นเขตของเกษตรกรรมของมนุษย์ อาหารหลักของนากคือสัตว์น้ำชนดต่างๆ โดยเฉพาะปู 

นากเล็กเล็บสั้นมีประสาทสัมผัสอยู่ที่หน้าขาออกลูกตามโพรงไม้หรือโพรงหินเพราะขาหน้าไม่แข็งแรงพอที่จะขุดโพรงริมตลิ่งได้เหมือนนากชนิดอื่นๆ และมักจะออกหากินในเวลากลางคืนหรือช่วงพลบค่ำจนถึงรุ่งเช้า  **นากชนิดนี้หากนำมาเลี้ยงตั้งแต่ยังเล็กจะเชื่องและสามารถทำตามคำสั่งของมนุษย์ได้ จึงมีการนำมาแสดงโชว์ตามสวนสัตว์ต่างๆนั้นเอง**

    

     >>นากใหญ่ขนเรียบ (Lutrogale perspicillata)

ลักษณะทั่วไป : นากใหญ่ขนเรียบ เป็นนากชนิดหนึ่งที่ใหญ่ที่สุดพบในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตัวผู้มีขนาดใหญ่กว่าตัวเมียมาก *มีลักษณะแตกต่างไปจากนากใหญ่ธรรมดา (Lutra lutra)  และนากจมูกขน (Lutra sumatrana) มีหัวกลม แนวขนบนจมูกเป็นรูปตัววีคว่ำ ขนสั้น หูมีขนาดเล็กและมีลิ้นปิดหูเวลาว่ายน้ำเพื่อมิให้น้ำเข้าหู ขนตามลำตัวมีสีน้ำตาลปนสีดำ หรือน้ำตาลอ่อน บริเวณท้องมีสีอ่อนกว่าบริเวณหลัง หางแบน และมีความยาวประมาณร้อยละ 60 ของลำตัว อุ้งเท้าและนิ้วเท้ามีขนาดใหญ่ มีความยาวลำตัวและหัว 65-75 เซนติเมตร ความยาวหาง 40-45 เซนติเมตร น้ำหนักเต็มที่ 7-11 กิโลกรัม

ถิ่นอาศัย : มีการกระจายพันธุ์ตั้งแต่เนปาล, อินเดีย, ภาคตะวันตกของมณฑลยูนาน, พม่า, ไทย, ลาว, กัมพูชา, เวียดนามตอนใต้, มาเลเซีย และเกาะสุมาตรา

พฤติกรรม : มีพฤติกรรมอาศัยตามพื้นที่ชุ่มน้ำที่เป็นที่ลุ่มต่ำ เช่น ริมทะเลสาบ ลำธาร คลอง ใช้หนวดเป็นประสาทสัมผัสในการรับรู้ เช่นเดียวกับนากชนิดอื่น ๆ โดยใช้หนวดทำหน้าที่รับแรงสั่นสะเทือนจากการเคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวิตใต้น้ำ กินอาหารได้หลากหลายประเภท ทั้ง สัตว์น้ำชนิดต่าง ๆ รวมทั้งนกหรือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมขนาดเล็ก เช่น หนู ด้วย ออกหากินทั้งกลางวันและกลางคืน มักอยู่รวมกันเป็นครอบครัวเล็ก ๆ ยกเว้นในสถานที่ที่มีอาหารอุดมสมบูรณ์อาจอยู่รวมเป็นฝูงใหญ่ มีเท้าและเล็บแข็งแรงจึงสามารถขุดรูริมตลิ่งได้ลึกถึง 3 เมตร เพื่อใช้การเลี้ยงดูลูกอ่อน ลูกนากที่เกิดใหม่จะลืมตาภายในเวลา 10 วัน และออกหากินได้เองเมื่ออายุได้ 3 เดือน

สำหรับในประเทศไทย พบได้ทั่วทุกภาค โดยพบได้แม้กระทั่งในเมืองใหญ่ ๆ เช่น เมืองหลวงอย่าง กรุงเทพมหานคร ในแถบป่าชายเลน ในเขตบางขุนเทียน ฝั่งธนบุรี นอกจากนี้แล้วในประเทศสิงคโปร์ แถบหน้ามารีนาเบย์แซนส์ โรงแรมขนาดใหญ่ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนที่เป็นที่รู้จักดี ก็มีฝูงนากใหญ่ขนเรียบอาศัยอยู่ร่วมกับมนุษย์อย่างสงบ

 

 

      >>นากใหญ่ธรรมดา หรือ นากยุโรป (Lutra lutra)

ลักษณะทั่วไป : เป็นนากชนิดที่สามารถพบได้กว้างขวางมาก มีลำตัวยาว ขนหนาและหยาบเพื่อป้องกันมิให้น้ำซึมเข้ามา ทำให้ว่ายน้ำได้คล่องแคล่ว และป้องกันอากาศเย็นได้เป็นอย่างดี สีขนตามลำตัวเป็นสีน้ำตาลอ่อน ในบางครั้งอาจเปลี่ยนหรือเห็นเป็นสีเทา บริเวณท้องมีสีขนที่อ่อนกว่า หัวแบนและกว้าง หูกลม หางเรียวยาว ขนสั้น นิ้วเท้ามีพังผืดยึดติดกัน มีความยาวลำตัวและหัว 55-72 เซนติเมตร ความยาวหาง 37.5-48 เซนติเมตร น้ำหนักสูงสุด 3-5 กิโลกรัม

ถิ่นอาศัย : มีการกระจายพันธุ์ที่กว้างขวางมากตั้งแต่ทวีปยุโรปจนถึงทวีปเอเชีย พบตั้งแต่ สหราชอาณาจักร, ยุโรปตะวันตก, รัสเซีย, ตุรกี, ซีเรีย, อิหร่าน, เลบานอน, ซาอุดิอาระเบีย, คูเวต, อิรัก,ปากีสถาน, อินเดีย, ศรีลังกา, พม่า, ไทย, ลาว, กัมพูชา, เวียดนาม, มาเลเซีย, เกาะสุมาตราและเกาะชวา

พฤติกรรม : มีพฤติกรรมสามารถปรับตัวให้อาศัยในสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี เช่น ป่าใกล้ลำธารหรือทะเลสาบ แม่น้ำขนาดใหญ่ สามารถขึ้นไปอาศัยอยู่ในแหล่งน้ำบนพื้นที่ที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 1,000 เมตร อาหารหลัก คือ สัตว์น้ำชนิดต่าง ๆ รวมทั้งเป็ดและไก่และนกน้ำชนิดต่าง ๆ ด้วย สามารถหาอาหารในน้ำที่มืดและขุ่นได้ด้วยการใช้ประสาทสัมผัสจากหนวด ทำหน้าที่รับรู้แรงสั่นสะเทือนจากการเคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวิตใต้น้ำ ออกหากินตามลำพังหรือเป็นกลุ่มเล็ก ๆ หากินได้ทั้งกลางวันและกลางคืน มีพฤติกรรมในการถูตัวเกลือกกลิ้งกับทรายเพื่อเป็นการทำให้ขนแห้งและช่วยกระชับความสัมพันธ์ในครอบครัว ลูกนากใหญ่ธรรมดาจะเริ่มหัดอาหารกินเองเมื่ออายุได้ 4 เดือน โดยมีนากใหญ่ธรรมดาที่โตเต็มที่คอยช่วยเหลือและแบ่งปันอาหารให้ โดยบางครั้งอาจรวมตัวกันเป็นฝูงใหญ่เพื่อป้องกันอันตรายจากสัตว์นักล่าได้ด้วย

จากคุณสมบัติของขนที่ทั้งหนาและกันหนาวได้เป็นอย่างดี ทำให้ถูกล่าเพื่อเอาขนและหนังทำเป็นเสื้อขนสัตว์ในอดีต ก่อนที่ในปี ค.ศ. 1975 ทางกองทุนสัตว์ป่าโลก ได้เรียกร้องให้รัฐบาลประเทศต่าง ๆ ยกเลิกการค้าหนังนาก ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีรวมทั้งในประเทศไทยด้วย ซึ่งสถานะของนากใหญ่ธรรมดาในปัจจุบัน จัดอยู่ในบัญชีหมายเลข 1 (Appendix 1) ของอนุสัญญาไซเตส

 

     >>นากจมูกขน (Lutra sumatrana)

ลักษณะทั่วไป : เป็นนากชนิดหนึ่งที่สามารถพบได้ในประเทศไทย มีรูปร่างหน้าตาคล้ายนากใหญ่ธรรมดา (L. lutra) ขนตามลำตัวมีสีดำหรือสีน้ำตาลเข้มเหมือนกำมะหยี่ มีลักษณะเด่นคือ มีขนปกคลุมบริเวณจมูกแตกต่างไปจากนากชนิดอื่น ๆ ที่บริเวณจมูกจะเป็นแผ่นหนังเรียบ ริมฝีปากบน คาง และคอด้านล่างมีสีขาว หัวแบน และปากค่อนข้างกว้าง มีความยาวลำตัวและหัว 50-82 เซนติเมตร ความยาวหาง 45-50 เซนติเมตร น้ำหนัก 5-6 กิโลกรัม

ถิ่นอาศัย : มีการกระจายพันธุ์ตั้งแต่ตอนใต้ของกัมพูชา บริเวณดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงของเวียดนาม, มาเลเซีย, ภาคตะวันตกของเกาะสุมาตราและบอร์เนียว สำหรับในประเทศไทยพบบริเวณภาคตะวันตกและภาคใต้ จากรายงานเมื่อปี พ.ศ. 2531 มีการพบนากจมูกขน 2 แห่ง คือ ลุ่มแม่น้ำแม่กลอง และบริเวณเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี และในปี พ.ศ. 2542 มีผู้สามารถจับตัวได้อีกที่ป่าพรุโต๊ะแดง จังหวัดนราธิวาส ในบริเวณใกล้กับชายแดนมาเลเซีย

พฤติกรรม : นากจมูกขนนับว่าเป็นนากชนิดที่ได้ชื่อว่าหายากที่สุดในโลก เพราะมีรายงานพบเห็นเพียงไม่กี่ครั้งและมีการศึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรมน้อยมาก มักพบนากชนิดนี้ตามพื้นที่ชุ่มน้ำ เช่น ปากแม่น้ำใกล้กับทะเลหรือชายฝั่ง มักอาศัยอยู่เป็นฝูงเล็ก ๆ

**แต่อย่างไรก็ตาม ในกลางปี พ.ศ. 2551 ได้มีการเปิดเผยว่าที่เวียดนามได้มีการค้นพบนากจมูกขนที่เขตป่าสงวนอูมิงห่า ในจังหวัดก่าเมา ซึ่งอยู่ทางตอนใต้สุดของเวียดนาม เมื่อเดือนมีนาคม ปีเดียวกัน จากเดิมที่เคยเชื่อว่าสูญพันธุ์ไปเมื่อกว่า 10 ปีที่แล้ว

 

 

ขอขอบคุณข้อูลดีๆจาก : วิกิมีเดีย, Swordfish_jittinee

ขอขอบคุณรูปภาพสวยๆจาก : NaturePhoto-CZ.com, Kapook, วิกิพจนานุกรม, Swordfish_jittinee, DooAsia, Petcitiz.info