เสือ 5 ชนิด ที่ขึ้นบัญชี สัตว์ป่าคุ้มครอง

เสือเจ้าป่าที่น่าเกรงขราม แต่เมื่อเวลาผันผ่าน กลับพบว่าจำนวนประชากรของเสือลดลงอย่างน่าใจหาย และใกล้จะสูญพันธุ์ จนต้องถูกขึ้นบัญชีเป็น สัตว์ป่าคุ้มครอง สำหรับเสือ 5 ชนิด ที่ขึ้นบัญชี สัตว์ป่าคุ้มครอง มีดังนี้

 

เสือโคร่ง
 

เสือโคร่งเป็นสัตว์ประเภทเสือที่เราน่าจะรู้จักกันมากที่สุด เพราะมีเอกลักษณ์เป็นลายพาดกลอน และมีรูปร่างสง่างาม ร่างกายแข็งแรง จึงถูกยกย่องให้เป็นจ้าวป่า 

เสือโคร่งแบ่งออกเป็น 9 สายพันธุ์ คือ เบงกอล, แคสเปียน, ไซบีเรีย, ชวา, จีนใต้, บาหลี, สุมาตรา, อินโดจีน และมลายู แต่ทว่าปัจจุบันมีเสือโคร่งสูญพันธุ์ไปแล้ว 3 สายพันธุ์ คือ พันธุ์แคสเปียน, พันธุ์ชวา และพันธุ์บาหลี

         

ขณะที่สายพันธุ์ที่เหลืออยู่ก็มีจำนวนลดน้อยลงไปเรื่อย ๆ จนน่าห่วงว่าจะสูญพันธุ์ โดยเฉพาะพันธุ์จีนใต้, พันธุ์สุมาตรา และไซบีเรีย ซึ่งจัดเป็นเสือโคร่งที่มีขนาดใหญ่และแข็งแรงที่สุด คือมีน้ำหนักได้มากกว่า 300 กิโลกรัม

 

ปัจจุบันพบเสือโคร่งอาศัยอยู่ใน 13 ประเทศเท่านั้น ได้แก่ บังกลาเทศ, ภูฏาน, กัมพูชา, จีน, อินเดีย, อินโดนีเซีย (สุมาตรา), ลาว, มาเลเซีย, พม่า, เนปาล, รัสเซีย, เวียดนาม และไทย สำหรับในประเทศไทยเอง เสือโคร่งที่อาศัยอยู่เป็นสายพันธุ์อินโดจีนทั้งหมด โดยคาดว่าจะเหลืออยู่ประมาณ 200-250 ตัว อาศัยอยู่ตามป่าเบญจพรรณใกล้ลำห้วย เพราะเป็นป่าที่มีแหล่งอาหารและแหล่งน้ำอุดมสมบูรณ์ เช่น เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง-ทุ่งใหญ่นเรศวร ที่มีประชากรเสือมากที่สุด รวมทั้งอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ทับลาน เขาใหญ่ ฯลฯ

          

ด้วยสถานการณ์เสือโคร่งที่ลดลงเรื่อย ๆ ทำให้มีการกำหนดให้วันที่ 29 กรกฎาคมของทุกปีเป็น “วันอนุรักษ์เสือโคร่งสากล” (International Tiger Day) หรือ “วันอนุรักษ์เสือโลก” (Global Tiger Day) เพื่อร่วมกันอนุรักษ์และเพิ่มจำนวนเสือควบคู่ไปกับการป้องกันและปราบปรามการล่าเสือโคร่งที่เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้จำนวนเสือโคร่งลดลง


 

เสือดาว หรือ เสือดำ

 

เสือดาวเป็นเสือที่มีขนาดใหญ่รองมาจากเสือโคร่ง มีจุดเด่นตรงที่มีขนสีน้ำตาลอ่อนแกมเหลือง และมีลายดอกสีดำอยู่ทั่วตัว แต่บริเวณกลางตัวจะมีจุดดำเรียงกันเป็นวงเล็ก ๆ มีช่องว่างตรงกลาง เรียกว่า “ลายขยุ้มตีนหมา” แต่หากเสือดาวมีความผิดปกติของเม็ดสีที่เรียกว่า “เมลานิซึม” จะทำให้ลำตัวมีสีดำ คนจึงเรียกเสือดาวชนิดนี้ว่า “เสือดำ” แต่จริง ๆ สีของมันยังไม่ถึงกับดำสนิท เพราะถ้าอยู่ท่ามกลางแสงแดดก็ยังเห็นว่ามีลายเช่นเดียวกับเสือดาวอยู่

เสือดาว และเสือดำ พบได้ในทวีปแอฟริกาและทวีปเอเชียตอนใต้ มีถิ่นที่อยู่อาศัยหลากหลาย เพราะอยู่ได้ในสภาพแวดล้อมหลายประเภท ทั้งป่าเบญจพรรณ ป่าดิบแล้ง ป่าเต็งรัง และทุ่งหญ้า พื้นที่โล่ง สำหรับประเทศไทยพบมากในแถบภาคใต้ อย่างที่เคยปรากฏเป็นข่าวก็เช่นในอุทยานแห่งชาติกุยบุรี, เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง โดยเสือดำพบได้ยากกว่าเสือดาว และมีความดุร้ายมากกว่า

          

ปัจจุบัน เสือดาวจัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองลำดับที่ 182 เนื่องจากอยู่ในข่ายเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ เพราะยังคงมีกลุ่มลักลอบค้าสัตว์พยายามล่าเสือดำและเสือดาว ด้วยหวังจะเอาหนังไปทำเครื่องประดับ หรือใช้ในพิธีกรรม รวมทั้งเอาเครื่องในและกระดูกไปทำยาจีน 

          

 



เสือปลา

 

เสือปลามักถูกเข้าใจผิดว่าคือ “แมวเบงกอล” เพราะมีรูปร่างหน้าตาคล้ายแมว คือมีหน้าสั้น ขาสั้น หางสั้นกว่าครึ่งของลำตัว ใบหูกลม มีขนสีเทาแกมน้ำตาล มีลายสีน้ำตาลแกมดำสั้น ๆ เรียงเป็นแนวตามตัว แต่จะมีขนาดตัวใหญ่กว่าแมวบ้านและดุกว่า มักพบในพื้นที่เอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

          

อย่างในประเทศไทยจะพบเสือปลาตามป่าที่ราบต่ำทั่วไปซึ่งอยู่ใกล้หนองน้ำลำธาร เพราะอาหารหลักของเสือปลาคือ ปลา ปู กบ เขียด นก หนู และหอย เสือปลาจึงมีความสามารถในการว่ายน้ำและดำน้ำ แต่ปกติแล้วมักจะไม่ชอบลงน้ำ แต่จะใช้วิธียืนรออยู่ตามโขดหินให้ปลาว่ายเข้ามาใกล้ ๆ ซะมากกว่า

ปัจจุบันสถานการณ์เสือปลาทั่วโลกอยู่ในขั้นใกล้จะสูญพันธุ์เต็มทีแล้ว เนื่องจากถูกมนุษย์รุกล้ำพื้นที่ชุ่มน้ำซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยและออกหากินของเสือปลา ทำให้เสือปลาขาดแคลนอาหารและไม่มีที่อยู่อาศัย บางครั้งเสือปลาต้องออกจากป่าไปจับสัตว์เลี้ยงของชาวบ้านกิน สุดท้ายเสือปลาก็ถูกชาวบ้านฆ่าตาย นี่จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เสือปลาลดจำนวนลงจนใกล้สูญพันธุ์

 

 

 
เสือไฟ

          

เสือไฟมีลักษณะลำตัวเป็นสีพื้นน้ำตาลแดง แต่บางตัวอาจมีสีดำหรือเทา มีลักษณะเด่นคือ มีแต้มสีขาวกับขีดสีดำบริเวณแก้ม และมีเส้นจากหัวตาไปถึงกระหม่อม ด้านล่างลำตัวและขาด้านในมีสีขาว ปลายหางด้านล่างสีขาว หูสั้นกลม หลังหูสีดำและมีจุดขาวอยู่กลางหลังหู ตามักมีสีเขียวอมเทาหรือสีเหลืองอำพัน ขนาดลำตัวไม่ใหญ่มากนัก มักอาศัยอยู่ตามป่าฝนในเขตศูนย์สูตร ตั้งแต่เนปาล ลงไปจนถึงสุมาตรา

อุปนิสัยของเสือไฟมักหากินในเวลากลางคืน โดยจับสัตว์ขนาดเล็กกว่า เช่น กระต่าย นก หนู ไก่ สัตว์เลื้อยคลานกินเป็นอาหาร ปัจจุบันพบเสือไฟได้น้อย เพราะเจอภัยคุกคามหลายด้าน ทั้งการบุกรุกป่าทำให้สูญเสียที่อยู่อาศัย รวมทั้งการล่าเอาหนัง และบ่อยครั้งที่ได้ยินข่าวชาวบ้านฆ่าเสือไฟที่เข้ามากินสัตว์เลี้ยงในบ้าน ยิ่งทำให้เสือไฟมีแนวโน้มสูญพันธุ์ได้ง่ายขึ้น


 

เสือลายเมฆ
          

เสือลายเมฆมีลักษณะคล้ายเสือดาวแต่ตัวเล็กกว่า และรูปร่างเตี้ยป้อม จัดว่าเป็นเสือที่มีขนาดเล็กที่สุด ลำตัวมีสีน้ำตาลแกมเขียว และมีลายเป็นวงใหญ่คล้ายก้อนเมฆทั่วตัว มีหางยาวมากและฟู มีลายเป็นปล้องตลอดหาง ขาค่อนข้างสั้นและเท้าใหญ่ 

เสือลายเมฆชอบอาศัยอยู่บนต้นไม้ในป่าทึบหรือป่าดิบในเขตร้อนชื้น เพราะปีนต้นไม้เก่ง สามารถห้อยโหนกิ่งไม้ด้วยขาหลังเพียงอย่างเดียวและปล่อยให้หัวห้อยลงมาได้ แต่กลับไม่ถนัดในการจับเหยื่อบนต้นไม้ จึงมักออกล่าเหยื่อตามพื้นดิน เช่น พวกกระรอก นก ลิง เก้ง กวาง สัตว์เลื้อยคลานอื่น ๆ

          

และเพราะหนังเสือลายเมฆมีความสวยงาม จึงทำให้เสือลายเมฆถูกล่าเอาหนังไปทำผลิตภัณฑ์จากขนสัตว์ เป็นเหตุให้พบเสือลายเมฆในธรรมชาติได้น้อยมาก จึงจัดเป็นสัตว์ป่าที่ต้องคุ้มครองอีกชนิด

 

 

 

 

ขอบคุณ kapook.com กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชโลกสีเขียวสวนสัตว์ดุสิตไทยพีบีเอส